วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ รุ่น จงสำเร็จ

หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ เป็นพระธุดงค์กรรมฐาน นักพัฒนา นักปฏิบัติกรรมฐานถือสันโดษ ปัจจุบันพำนักอยู่สุสานทุ่งมน ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีสิริมงคลอายุ 95 ปี เป็นพระอนุรักษ์นิยม ส่งเสริมความสมบูรณ์ ความสมดุล สู่ธรรมชาติโดยดารขุดสระ ขุดบ่อ ทำฝายทดน้ำ ซื้อที่ปลูกป่านับหมื่นๆไร่ ทั้งปล่อยสัตว์นานานชนิดโดยเฉพาะสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง เป็นที่น่าอัศจรรย์ สัตว์มีพิษทุกชนิดหลังจากที่หลวงปู่ ท่านเสก เป่าปล่อยแล้ว จะอยู่ร่วมกันไม่กัดกินกัน

ขณะนี้ได้สร้างปราสาทเพชร พิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม เจริญภาวนาแก่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร เป็นอาคารสามชั้น ภายนอกปิดผนังด้วยหินทราย ภายในปู-ปิดด้วยผนังหินอ่อน โดยมีพระพุทธเพชรสุรินทร์ เป็นพระประธาน ขนาดหน้าตักกว้าง 59 นิ้ว แกะสลักจากเนื้อหินศิลาอัมรินทร์ พร้อมทั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ เก็บเครื่องอัฏฐบริขาร ของหลวงปู่ แลวัตถุมงคลต่างๆ ไว้ให้อนุชนได้ศึกษา หาความรู้สืบไป



ปัจจุบัน มีวัตถุมงคลหลวงปู่หงษ์ ซึ่งจุดประสงค์ในการจัดสร้าง เพื่อที่สมทบทุนในการสร้างปราสาทเพชร พิพิธภัณฑ์ ซึ่งได้เปิดให้ผู้มีจิตศรัทธา เช่าบูชาเพื่อเป็นสิริมงคล โดยมีเป็นชื่อวัตถุมงคลว่า หลวงปู่หงษ์ รุ่น จงสำเร็จ ซึ่งมีชนวนมวลสารคือ รังนกสาริกา เถาวัลย์หลง ผงรวม กาฝาก 108 , รวมพระขุนแผนทุกรุ่นของหลวงปู่ สีผึ้งก้นกะทะ , ชนวนพระกริ่งและพระเก่าของหลวงปู่ , ข้าวก้นบาตร ว่านเกสร 108 ผงรวมทุกรุ่น ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ สุสานทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ วันเสาร์ ที่ 2 มิถุนายน 2555

รวมภาพพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคล หลวงปู่หงษ์ รุ่น จงสำเร็จ


วันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555

หลวงปู่นิ่ม เจ้าตำรับมนต์จินดามณี วัดพุทธมงคล

หลวงปู่นิ่ม วัดพุทธมงคล ยอดพระเกจิเมืองขุนแผน อายุ ๘๔ ปี พรรษา ๖๔ 


เกจิสุพรรณที่เป็นยอดสืบวิชาสายตรงองค์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เพียบแปล้ไปด้วยพุทธคุณและพลังอภิญญาสมบัติ อิทธิฤทธิ์ปานรูปองค์พระดุจอุณาโลมที่เหนือหน้าผาก(อาจารย์นำแก้วจันทร์ก็มีปานดำอุณาโลมแบบนี้) สืบเชื้อสาย พุทธบุตร มาหลาย แสนชาติ เต็มเปี่ยมไปด้วย อิทธิฤทธิ์ และ ปาฏิหาริย์ แบบ หาตัวจับยาก และ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก หลวงปู่นิ่ม ท่านมีนิสัยเรียบร้อย พูดน้อย สงบเงียบ แต่อุดมไปด้วยสมาธิจิตตั้งแต่เป็นเด็ก เติบโตเป็นสามเณร เป็นพระภิกษุถึงมหาเถระ ยอมเปิดเผยตัวว่า เป็นหนึ่ง ไม่มีสอง ของยอดเกจิยุคกึ่ง พุทธกาล ยอดเกจิเมืองขุนแผน

ประวัติพอให้รู้ว่า พระเก่งเกิดขึ้นแล้วกลางเมือง สุพรรณภูมิ เถระองค์ นี้มีดี สูงล้น ท่านบวช กับ หลวงปู่เปลื้อง วัดสุวรรรภูมิ เกจิผู้ใหญ่ในสุพรรณ สืบวิชา ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า วิชา หลวงปู่สอน วัดป่าเลไลยน์ ผู้สร้างเหรียญหลวงพ่อโต วัดป่า ฯ ที่ค่านิยมเป็นแสน ๆ สืบวิชา หลวงปู่โต๊ะ วัดลาด อีกสาย ที่น่าทึ่ง สายเจ้าคุณใหญ่ เมืองสุพรรณ(พระธรรมมหาวีรานุวัตร) สายนี้สืบจากหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก เป็นอาจารย์ ของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่อเต๋ คงทอง และ หลวงพ่อ จ่าง วัดสองพี่น้อง ผู้เป็นอาจารย์ของท่านเจ้าคุณใหญ่อีกที สายตรง ที่หลวงปู่นิ่มเรียนและฝากเรียนมามากที่สุด คือ หลวงปู่กล้าย วัดหงส์ฯ พอหลวงปู่นิ่มบวชแล้ว หลวงปู่กล้าย รู้ดีว่า “พระนิ่ม” นี่มีดีในตัว อัศจรรย์แท้ๆ จึงมารับหลวงปู่นิ่มไปอยู่วัดหงส์รัตนาราม

ตั้งแต่วันแรก หลวงปู่กล้ายถ่ายทอดให้ หลวงปู่นิ่ม จนหมด จนสิ้น เพราะไม่ได้อยู่กันประเดี๋ยวประดาว อยู่กับหลวงปู่กล้ายเป็นปีๆ หลวงปู่กล้าย นี่นับเป็นพระผู้ใหญ่และเป็นเกจิยุค ปี 2500 เป็นศิษย์ หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา ในยุคนั้น มีเกจิเก่งๆอยู่เพียบ หลวงปู่กล้าย ท่านจึง พา หลวงปู่นิ่มไปกราบ ไปขอคาถาเคล็ดวิชาอาคม บางก็ฝึกจิต ฝึกสมาธิ เรียนวิชาจากยอดเกจิยุคปี 2500 อย่างชนิดที่เจอตัวเป็นๆ สอนกันชัดๆ บอกให้รู้พอหอมปากหอมคอ ก็เช่น หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ผู้เป็นชาวสุพรรณสนิทสนมกับหลวงปู่กล้ายมาก หลวงปู่นิ่ม ไปเรียนวิชากับหลวงพ่อสด สังฆราช (ป๋า) วัดโพธิ์ฯ สนิมชิดเชื้อกับหลวงปู่กล้าย ตอนหลวงปู่กล้ายป่วย สังฆราชฯเสด็จเยี่ยมถึงกุฏิ ได้ที หลวงปู่กล้ายจึงกราบฝากหลวงปู่นิ่มเป็นศิษย์ สมเด็จฯป๋า หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อแช่ม วัดนวลนรดิษฐ์ หลวงปู่นิ่มไปเรียนมาทั้งนั้น เกจินอกพื้นที่หลวงปู่นิ่มไปเรียนตามคำฝากของหลวงปู่กล้าย อีกหลายองค์ เช่น หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว หลวงพ่อเต๋คงทอง หลวงพ่อหรุ่น วัดเสาธงทอง หลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอม เท่านี้ก็เหลือแหล่แล้ว โอ้โห วิชาสายตรงดีๆทั้งนั้น ยอดเกจิในยุคอดีต ฝากวิชาไว้ให้ หลวงปู่นิ่ม วัดพุทธมงคล องค์นี้ ถ้า หลวงปู่นิ่มองค์นี้สร้างพระไว้แรกๆ ก็คงจะดังระเบิดเป็นพระหลักของวงการและพระหลักของเมืองสุพรรณ อีกองค์ ท่านก็ทำเล็กๆน้อยๆ แจกลูกศิษย์ พระเล็กๆน้อยๆที่ทำพุทธคุณไม่เล็กไม่น้อยเลย เอาอย่างนี้ จะเล่าเรื่องเล็กๆแต่ยิ่งใหญ่ให้ทราบ

พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลในพระอุโบสถวันพุทธมงคล วันที่ 22 กรกฎาคม 2555

  • ตะกรุด หลวงปู่นิ่ม ลูกศิษย์ใส่สร้อยไปกราบ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ เมื่อปี 2538 ปีที่หลวงพ่อคูณเริ่มดัง หลวงพ่อคูณจะเสกทั้งสร้อย ท่านจับแล้วลืมตา หยิบตะกรุดออกและ บอกว่า “ไอ้นี่มันของดีแล่ว ไม่ต้องเสกอีกด๊อก
  • หลวงพ่อพยุง วัดบรรลังค์ เคย กล่าวไว้ว่า “บ้านเรา อีกหน่อยจะเหลือแต่อาจารย์ นิ่ม วัดพุทธฯ เขาเสกของขึ้น” 
  • แม้แต่ หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว เคยจะเสกทับตะกรุด หลวงปู่นิ่ม ท่านหลับตาลืมตาอีกครั้งหยิบตะกรุดออก บอกว่า “เขาทำของเขาแรงแล้ว เราจะไปเสกเข้าหรือ????
  • ครั้งสำคัญ  เมื่อ หลวงปู่นิ่มออกเหรียญ  ผูกพัทธสีมา ปี 2540 ท่านเสกเองเงียบๆที่กุฏิ ปรากฏว่า เมื่อท่านปิดกุฏิเสกเมื่อไหร่  สายฟ้าพุ่งเป็นสายๆ เข้าหากุฏิท่านจนเสกเสร็จทุกวันทุกวัน  ชาวบ้านลือกันว่า ท่านเชิญเทวดาเข้ากุฏิ  เหรียญนี้จึงได้ฉายาว่า เหรียญ “สายฟ้าฟาด” พอแจกออกไปเกิดปาฏิหาริย์มากมาย ใครจนอยู่เลิกจน ค้าขายไม่ดีเลิกขายไม่ดี  กิจการเปลี่ยนหลังมือ เป็นหน้ามือ อย่างไม่นาเชื่อ
  • มีอยู่ครั้งหนึ่งเหรียญนี้แม่ค้าได้รับแจกไปและใส่ไว้ก้นกระเป๋าสะพายจนลืมไปแล้ว  วันหนึ่งญาติพาไปกราบหลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร เอากระเป๋าไปให้ หลวงพ่อจ้อย เป่าให้ ท่านบอกเสียงเบาๆว่า “ในกระเป๋า มีลูกแก้วอยู่เทวดามาเฝ้าด้วย” แม่ค้าบอก หลวงปู่ว่าไม่มี ไม่มีเจ้าคะ     ท่านบอกหาดีๆ เทกระเป๋ามาดู เจอเอกสารเงินของจิปาถะ และมีเหรียญหลวงปู่นิ่มตกมาดังแปะ หลวงพ่อจ้อยอมยิ้ม บอกว่า นี่นี่ ลูกแก้ว สารพัดนึก
บารมีหลวงปู่นิ่มมีมากมายอย่างนี้ หาพระอย่างนี้ยากมั้ย... เล่า

หลวงปู่นิ่ม เต็มอิ่มด้วยพุทธคุณ สูงล้นด้วยพลังจิต ใจใหญ่ยิ่งกว่าแม่น้ำ
พุทธคุณสูงส่ง ดังกงจักรปักใจ พระแท้เมืองสุพรรณที่ คนสุพรรณกราบแล้วกราบอีกบอกว่า “อ้อของจริงอยู่ในเมือง นี่เอง”

วิชา จินดามณีวังหลวง นี้แหละแม่บท วิชา จินดามณี
มหายันต์ “ จินดามณีวังหลวง ”เป็นยันต์ประจำตัวหลวงปู่มีคุณมาก  บวกลบคูณหารแล้วสรุปใจความว่า ยันต์นี้ เรียกลาภให้ไหลมาเทมาการค้าการขายดี เรียกลูกค้าดียิ่งกว่ายันต์จินดามณี แล้ว ยันต์นี้อยู่ที่ไหนทำให้ที่นั้นเจริญพัฒนาสถาพร      ถิ่นฐานล้างก็กลับมีผู้คน     บ้านที่ยากจนก็มั่งมี    บ้านคหบดีก็เป็นเศรษฐีใหญ่   บ้านที่รวยแล้วไซร้ก็งอกงามยาวนานสืบต่อไป ยันต์จินดามณีวังหลวงหลวงปู่ใช้ลงและเสกวัตถุมงคลเพื่อประกาศนามหลวงตา แก่ๆ ที่ร่ำเรียนมาไม่รู้จะตอบแทนข้าวแดงแกงร้อนของญาติโยมอย่างไรจึงเอาวิชาทั้งหมดทุ่มเท ตั้งจิตอธิฐานต่อยันต์จินดามณีวังหลวง ที่ศักดิ์สิทธิ์  ช่วยเหลือลูกศิษย์ลูกหาที่ได้ครอบครอง ใช้อธิฐานวัตถุมงคลของหลวงปู่ที่ลงมนต์จินดามณีวังหลวง ให้มีแต่ ความสุข ความเจริญยิ่งๆขึ้นไป ตลอดกาลนานเทอญ  

วัตถุมงคลหลวงปู่นิ่ม วัดพุทธมงคล สุพรรณบุรี ..

วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สมเด็จวัดเจ้าอาม

หลังจากวัดเจ้าอาม บางกอกน้อย กรุงเทพฯ ได้เปิดกรุวัตถุมงคลที่เก็บไว้ใต้หลังคาพระอุโบสถ และพระวิหารวัด เป็นเวลานานหลายสิบปี ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักสะสมพระเครื่อง และประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมาก โดยสาเหตุที่วัดเจ้าอามได้เปิดกรุพระเก่าที่เก็บไว้นั้น ก็เพื่อนำออกมามอบให้แก่ผู้ที่ร่วมทำบุญสมทบทุนซื้อที่ดินถวายวัดเจ้าอาม จำนวน 813 ตารางวา เป็นเงิน 24 ล้านบาท เนื่องจากวัดมีพื้นที่คับแคบ ไม่เพียงพอกับการให้บริการประชาชนทั้งด้านพระพุทธศาสนา และสังคมสงเคราะห์ แต่วัดยังขาดทุนทรัพย์ในการซื้อที่ดินดังกล่าว จึงได้เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญ พร้อมรับพระเก่าพุทธคุณสูง เพื่อเป็นสิริมงคล เสริมบารมีให้กับชีวิตตนเองและครอบครัว

สำหรับพระเก่าที่เก็บไว้ทั้งหมด 3 รุ่น คือ พระสมเด็จเนื้อเกสร ปี 16 , พระสมเด็จแกะจากไม้ช่อฟ้าวัดระฆังปี 35 และพระสมเด็จทิพย์มงคล ปี 35 เนื้อผงผสมมวลสารไม้ช่อฟ้าวัดระฆัง

พระสมเด็จเนื้อเกสร ปี 16 เดิมจัดสร้างเมื่อปี 12 เพื่อแจกทหารที่ไปรบในสงครามเวียดนาม หลังจากนั้นได้มีการทำเพิ่มขึ้น เพื่อแจกทหารและตำรวจทั่วไป รวมทั้งบรรจุในพระปรางค์ใหญ่เก่าแก่ที่วัดเจ้าอาม เพื่อสืบทอดพระศาสนาต่อไป

พระสมเด็จเนื้อเกสรลาย 3 ชั้น ปี 16

พระผงสมเด็จชุดนี้ ได้รับการกล่าวขานกันว่า เป็นพระเครื่องที่มีพลังอานุภาพศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังด้านเมตตามหานิยม โดยเฉพาะด้านอภินิหารแคล้วคลาดจากอันตราย และคงกระพันชาตรี เนื่องจากมีประสบการณ์อันลือลั่นมานับไม่ถ้วน และมีชื่อเสียงมากในจังหวัดราชบุรี และเพชรบุรี

โดยพระครูนิวิฐสาธุวัตร หรือหลวงพ่อทองล่ำ เจ้าอาวาสวัดเจ้าอาม เป็นผู้จัดสร้างขึ้นเองที่วัด สร้างตามตำรับสูตรสมเด็จฯโต ที่ได้รับมาจากหลวงปู่หอน อดีตเจ้าคณะ 13 วัดระฆัง

หลวงพ่อทองล่ำ ได้รวบรวมเกสรจากวัดอารามต่าง ๆ รวมทั้งผงอิทธิเจและผงพุทธคุณจากพระเกจิอาจารย์มากมาย อาทิ หลวงปุ่โต๊ะ หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร และหลวงพ่อแกร วัดส้มเสี้ยว นำมาเป็นมวลสารในการจัดสร้างไว้ 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ 3 ชั้น เนื้อขาว และเนื้อลาย และพิมพ์ 9 ชั้น เนื้อลาย

ได้ทำพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดเจ้าอาม เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2516 ที่ผ่านมา โดยมีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ทำพิธีเจิมเทียนชัย

พร้อมพระเถราจารย์ที่มากด้วยอาคมเข้มขลังทั่วประเทศร่วมปลุกเสก อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี. หลวงพ่อสุข วัดราชนัดดา, หลวงพ่อพันธ์ วัดอินทราราม, หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิต, หลวงพ่อสว่าง วัดคฤหบดีสงฆ์ (วัดท่าพุทรา) กำแพงเพชร, หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์, หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่, หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ, หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช, หลวงพ่อแกร วัดส้มเสี้ยว, หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร, หลวงพ่อเส่ง วัดน้อยนางหงส์, หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง, หลวงพ่อรัตน์ วัดบางบำหรุ, หลวงพ่อหวล วัดพิกุล, หลวงพ่อช่วง วัดจำปา, พระอาจารย์ผ่องจินดา วัดจักรวรรดิ์ฯ, พระอาจารย์แสน วัดท่าแหน ลำปาง และพระอาจารย์สาโรจน์ วัดใหม่ทองเสน

จากรายนามพระเถราจารย์ที่มาร่วมพิธีปลุกเสกนั้น ล้วนเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของประชาชนทั้งประเทศ การันตีได้ว่า เป็นพระสมเด็จที่ควรสักการบูชาติดตัวไว้ อนาคตหาไม่ได้อีกแล้ว

พระสมเด็จปี 35 รุ่นประวัติศาสตร์ แกะลงยนเนื้อไม้ช่อฟ้าวัดระฆัง ของสูงศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่มากับพระอุโบสถเก่าแก่สมัยสร้างมาครั้งแรก มีอายุนานกว่า 200 ปีมาแล้ว หรือกล่าวได้ว่า สมัยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เลยทีเดียว

พระสมเด็จไม้ช่อฟ้าอุโบสถวัดระฆังปี 35

สมเด็จปี 35 นี้ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดเจ้าอาม เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2535 โดยได้รับเมตตาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เป็นประธานดับเทียนชัย


ปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ดังทั่วประเทศ จำนวน 69 รุป อาทิ พระสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง, หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวกการาม, หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ, หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน, หลวงพ่อช่วง วัดปากน้ำ, หลวงพ่อบุญมา วัดเบญจมบพิตร, หลวงพ่อทองดี วัดราชโอรส, หลวงพ่อผัน วัดระฆังฯ, หลวงพ่อช่อ วัดฤกษ์บุญมี, หลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า และพระครูนิวิฐสาธุวัตร เจ้าอาวาสวัดเจ้าอาม เป็นต้น