วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556

เศรษฐีนางพญา วัดนางพญา พิษณุโลก

วัดนางพญา อ.เมือง จ.พิษณุโลก ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับวัดราชบูรณะ ถัดไปทางทิศตะวันออก ลักษณะสถาปัตยกรรมสมัยเดียวกับวัดราชบูรณะ ต่างกันที่วัดนางพญาไม่มีพระอุโบสถมีแต่วิหาร วัดนางพญานี้มีชื่อเสียงในด้านพระเครื่อง เรียกว่า "พระนางพญา" ซึ่งเล่าลือกันถึงความศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันหาบูชาได้ยากมาก ปัจจุบันวัดนางพญา มี "พระครูสุจิตธรรมวิมล" หรือ "หลวงพ่อชุบ" ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส

"พระครูสุจิตธรรมวิมล" กล่าวถึง พระนางพญา ซึ่งเป็นวัตถุมงคลยอดนิยมของวัดว่า สร้างในสมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชาแห่งกรุงศรี อยุธยา แต่มีการสันนิษฐานต่อมาว่าผู้ที่สร้างคือ "พระวิสุทธิกษัตริย์" พระราชธิดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัยในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ และเป็นพระราชมารดาของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราชของชาติไทย พระนางพญาเป็นราชินีแห่งพระเครื่องเป็นพระกรุเก่าแก่ เป็นหนึ่งในพระเครื่องชุดเบญจภาคี คือพระเครื่องยอดนิยม 5 องค์ ได้แก่ พระสมเด็จ วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ, พระนางพญา จ.พิษณุโลก, พระซุ้มกอ จ.กำแพงเพชร, พระผงสุพรรณ จ.สุพรรณบุรี และ พระรอด จ.ลำพูน

"พระนางพญา หรือ พระพิมพ์นางพญา แม้เป็นพระแห่งยุคอยุธยา แต่ได้รับอิทธิพลพุทธศิลปะมาจากสกุลช่างสุโขทัย ในเรื่องสัดส่วน ทรวดทรง ศิลปะ อาจกล่าวได้ว่า การสร้างพระนางพญาเป็นการสืบสานศิลปะสุโขทัยบริสุทธิ์ในรูปพระเครื่อง เป็นพระรูปทรงสามเหลี่ยมทุกพิมพ์นั่งมารวิชัยไม่ประทับบนอาสนะหรือมีฐานรองรับ รูปทรงงดงามแทบทุกพิมพ์โดยเฉพาะบริเวณอกที่ตั้งนูนเด่นและลำแขนทอดอ่อนช้อยคล้ายกับผู้หญิง จึงเรียกพระพิมพ์นี้ว่าพระพิมพ์นางพญา หรืออาจจะเรียกตามพระนามผู้สร้างคือ พระวิสุทธิกษัตรี"

ล่าสุด วัดนางพญา โดย "พระครูสุจิตธรรมวิมล" ได้ดำริจัดสร้าง พระนางพญาเบญจภาคีแห่งกฤตยาคมพลังพุทธาคมครอบจักรวาลขึ้น ชื่อ "รุ่นเศรษฐีนางพญา" วัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัดนางพญา ได้มีการจัดพิธีเททองหล่อปฐมฤกษ์ไปแล้ว ณ มณฑลพิธีอุโบสถวัดนางพญา เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2555 ตรงกับวันแรม 4 ค่ำ เดือน 9 โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมนั่งอธิษฐานจิต ปลุกเสกคุมธาตุวันเททอง ประกอบด้วย หลวงพ่อรวย วัดตะโก จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อชุบ วัดนางพญา จ.พิษณุโลก และหลวงพ่อพิทยา วัดหนองดง จ.พิจิตร เป็นต้น


กำหนดจัดให้มีพิธีมหาพุทธาภิเษก ในวันจันทร์ที่ 11 ก.พ.2556 ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ปีมะโรง

วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556

หลวงปู่ทวด พ่อท่านพรหม พิมพ์เตารีดใหญ่ รุ่น "ให้ รวย รวย"

หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด พระเครื่องเงินล้าน สุดยอดพระนิรันตรายแห่งแดนใต้

การจัดสร้างหลวงปู่ทวดครั้งแรกเป็น พระเครื่อง เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกราวปี พ.ศ.2497 นับเป็นปฐมบทแห่งการสร้างหลวงปู่ทวด อันเป็นที่ศรัทธาสูงสุดแห่งดินแดใต้สุดแห่งสยามโดยการริเริ่มของ อาจารย์ทิม แห่งวัดช้างไห้ จังหวักปัตตานี เพื่อเป็นสิ่งตอบแทนญาติโยมผู้ที่จะมาร่วมบริจาคบูชาสร้างโบสถ์วัดช้างไห้ ให้สำเร็จ จึงเ้ป็นที่มาของปาฏิหาริย์ศรัทธาอย่างมากของชาวพุทธทั่วทั้งประเทศไทย และ รวมถึงในต่างประเทศจนได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอด "พระเครื่องนิรันตราย" กล่าวคือ ผู้ใดที่อาราธนาองค์หลวงปู่ทวด ติดตัวไว้จะไม่มีวันตายโหง

ไม่เพียงแต่ว่าจะต้องทำเป็นพิธีกรรมให้ถูกต้อง และศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ยังจะต้องมีมวลสารสำคัญที่จะต้องอยู่ในองค์หลวงปู่ทวดอยู่ด้่วย นั้นคือ ดินกากยายักษ์ ดินกากยายักษ์ นับเป็นดินที่ดำสนิท มีฤทธิ์เป็นยา มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในตัวของดินเอง เป็นความอัศจรรย์ในเนื้อดินที่ไม่มีซากพืช ซากสัตว์ ปะปนอยู่ในมวลดิน และยิ่งไปกว่านั้นเอง ดินกากยายักษ์นั้นพบได้ที่เดียวคือที่จังหวัดยะลาเท่านั้น หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปแล้วนั้น ความศักดิ์สิทธิ์ในองค์อาจไม่สมบูรณ์

พ่อท่านพรหม ธมฺมธิโร แห่งวัดพลานุภาพ จ.ปัตตานี อายุ 97 ปี พื้นเพท่านเป็นคนยะลาในตอนที่ท่านดำรงเพศฆราวาส ท่านเป็นทั้งหมอยาสมุนไพร และเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่บ้าน ลาแมเมาะยี ในอ.ยะหา จ.ยะลา เป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านทั้งชาวพุทธและมมุสลิมตลอดเวลา และดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านมาอย่างยาวนานถึง 18 ปี จนกระทั่งเกษียรอายุราชการ จึงเป็นที่เคารพและศรัทธาอย่างมากของชาวบ้านทั้งไทย-พุทธ ไทย-มุสลิม ในวาระที่พ่อท่านพรหม อายุครบรอบ 8 รอบ (96 ปี) เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมาบรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งหลายได้ร่วมกันแสดงมุทิตาจิตถวายแด่พ่อท่าน โดยการสร้างวิหารบูรพาจารย์ถวายพร้อมกันกับทำพิธีมหามงคลอย่างยิ่งใหญ่ รวมถึงพิธีมหาพุทธาภิเศกวัตถุมงคลที่บรรดาเหล่าศิษยานุศิษย์ร่วมกันจัดสร้างถวายในงานต่างๆอย่างมากมาย เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2555 และได้นิมนต์บรรดาสุดยอดเกจิแห่งแดนใต้หลายท่าน เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ อาทิ พ่อท่านฉิ้น วัดเมือง ยะลา, พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ, พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม, พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย



หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ที่พ่อท่านดำริสร้างในงานนี้ พ่อท่านตั้งใจและพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่ง ในเรื่องของชนวนมวลสาร ต้องครบถ้วนตามตำราการจัดสร้างหลวงปู่องค์ปฐมบทปี 2494 ของวัดช้างไห้ ที่มีประสบการณ์ล้นเหลือ มวลสารสำคัญที่ทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ต่อองค์หลวงพ่อทวดคือ ดินกากยายักษ์ ที่มีเฉพาะที่ยะลาที่เดียว พ่อท่านระบุจะต้องมีมวลสารสำคัญนี้ในการสร้างองค์หลวงพ่อทวด รวมถึงว่านมหามงคลที่พ่อท่านเลี้ยงมาตั้งแต่สมัยที่เป็นหมอยาสมุนไพรให้มาบดรวมเป็นมวลสารในการสร้างองค์หลวงปู่ทวดรุ่นนี้ ดังนั้นลักษณะเด่นของเนื้อองค์หลวงปู่ทวด จะเป็นลักษณะเป็นคล้ายกันกับองค์หลวงปู่ทวดปี 2497 คือเป็นเนื้อว่านดินซึ่งมีไขขาววามเก่าขึ้นตามธรรมชาติของว่านและดินเป็นมวลสารที่ตำผสมกันอีกทั้งคลุกรักเพื่อไม่ให้เนื้อพระนั้นซุยหรือยุ่ยตามแบบโบราณ ยางรักนั้นใส่เพื่อเป็นตัวผสานให้ว่านและกินรวมถึงมวลสารอื่นๆ สามารถยึดเกาะได้้ดี

พ่อท่านพรหมตั้งใจสร้างองค์หลวงปู่ทวดรุ่นนี้ให้ครบถ้่วน ด้วยมวลสาร พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์อธิษฐานจิตโดยสุดยอดเกจิ เพื่อปรารถนามอบให้เป็นของขวัญ ของขลัง แด่ศิษยานุศิษย์ ในวาระครบ 8 รอบ จึงตั้งชื่อรุ่นว่า "ให้ รวย รวย" และขอในบารมีองค์พ่อทวด สุดยอดพระนิรันตรายบันดาลให้ผู้ที่ได้อาราธนาองค์หลวงปู่ทวดนี้ จงประสบแต่ความสุข สำเร็จสมหวังทุกประการ อย่างที่ได้อธิษฐานต่อองค์หลวงปู่ทวดนี้ทุดประการ ให้มีแต่ความเจริญ ให้ รวย รวย !!

หลวงปู่ทวด พ่อท่านพรหม พิมพ์เตารีดใหญ่ เนื้อผง

หลวงปู่ทวด พ่อท่านพรหม พิมพ์เตารีดใหญ่ เนื้อผง (หลัง)

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ครูบาออ ปณฺฑิโต สำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะ

เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ครูบาออ ปัณฑิโต สำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ครูบา ผู้เฒ่าขมังเวทย์ เจ้าอาคมชาวไทยใหญ่ อายุ 92 ปี ปลีกตัว เร้นกาย อยู่บนดอยสูงเพียงรูปเดียว

- ครูบาออ รูปนี้ แม้วัยชรา ก็มีวิชาดี มีบารมีมาก ท่านแบกกลด ธุดงค์จากฝั่งไทยใหญ่ พม่า มาดอยจอมแวะ เพียงรูปเดียว ค่ำไหนนอนนั่น ถ้ำลึกลับ ป่าช้ารก เป็นที่อาศัย ผจญภูตผีปีศาจ เจ้าป่าเจ้าเขา ผ่านมาได้หมด

- เจ้าฟ้าแสงเชียง เจ้าแผ่นดินรัฐฉาน ไทยใหญ่ เป็นผู้สักสังวาลเพชร บนศีรษะท่านเมื่ออายุ 20 ปี เพราะโปรดที่ครูบาออ ตอนนั้นเป็นทหารกล้า นำพากองทัพไทยใหญ่รบชนะข้าศึกโดยไม่เสียกำลังพลแม้แต่คนเดียว

- ตอนบวช เจ้าปิ่นยา สังฆราชไทยใหญ่ บวชให้ เมื่อบวชแล้วท่านศึกษาอักขระ ตำราเลขยันต์ฉบับหอคำหลวง เจนจบพุทธาคม จนได้รับการวางตัว เป็นพระมหาเถระองค์ต่อไป

- ท่านขมังเวทย์ เรืองวิชาตั้งแต่เป็นเณร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านถูกเกณฑ์เป็นทหารไทยใหญ่ รบกับพม่า กองร้อยของท่านทั้งกองร้อย รบไม่เคยแพ้ ไม่ตาย ไม่เจ็บ เพราะก่อนรบ ท่านทำน้ำมนต์ทั้ง สักกระหม่อมให้เพื่อนทหารสู้กับศัตรู ปรากฏว่า ปืนทหารพม่ายิงมาไม่ออกบ้าง ออกแต่ไม่ถูกบ้าง ลูกระเบิดตกใกล้ ๆ ไม่ระเบิดบ้าง แม้ตอนนี้ เจ้ายอดศึก ผู้นำไทยใหญ่ ก็เคารพนับถือท่านอย่างที่สุด

- เรื่องเล่าจากศิษย์กรุงเทพ ฯ ขึ้นดอยไปกราบครูบาออท่าน ขณะคุยอยู่เห็นเมฆฝนตั้งเค้าดำทมึน ก็จะรีบลาท่านกลับ เพราะขืนช้า ฝนตกหนัก ดินลื่น น้ำหลาก จะลงดอยไม่ได้ ท่านห้ามไม่ให้กลับ แล้วก็คว้าผ้าเช็ดปากเดินไปที่ลานดิน ท่านเอาผ้าเช็ดปาก โบกอากาศไปมาอยู่ 3-4 ครั้ง ปากก็ว่าคาถาขมุบขมิบ แล้วก็เดินกลับ !! อัศจรรย์!! เมฆฝนดำทมืน ค่อย ๆ จางหายไป กลับมีแสงอาทิตย์ส่องผ่านเมฆมาแทน ปรากฏว่า ดอยจอมแวะ ทั้งดอยฝนไม่ตก แต่ตกรอบอำเภอเชียงดาวแทน แบบไม่ลืมหูลืมตา

- เรื่องเล่าจากศิษย์เชียงใหม่ นักธุรกิจน้ำดื่ม ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อนเลย ตอนกลางคืนหลับฝันว่าได้ขึ้นไปกราบพระชรา บนดอยสูง พระรูปนี้ ในฝันจำได้แม่น เพราะท่านสักยันต์รูปสี่เหลี่ยมสีทองไว้รอบศรีษะ ตื่นขึ้นมาก็เล่าความฝันให้ลูกน้องฟัง บังเอิญลูกน้องเป็นคนเชียงดาว ก็นึกถึงครูบาออ ว่าลักษณะตรงกับในฝัน เลยพากันขึ้นดอย ไปกราบท่าน เมื่อพบหน้าก็ต้องตะลึง ขนลุกทั้งตัว เพราะครูบาออ คือพระชราที่ตนฝันถึง เพราะจำใบหน้าเหี่ยวย่นได้ ที่สำคัญจำรอยสักยันต์สี่เหลี่ยมรอบศรีษะท่านได้แม่นยำ

- เรื่องเล่าจากหลานท่านเอง หลานท่านปลูกบ้านอยู่เชิงดอย สองวันบ้าง สามวันบ้าง จะขึ้นไปกราบท่านนำน้ำบ้าง อาหารแห้งบ้าง ไปถวาย มีช่วงหนึ่ง งานมาก เลยไม่ได้ขึ้นไปหาท่าน ตอนเช้าจะออกไปรับจ้าง พอเปิดประตูบ้าน ก็เห็นครูบาออ ในมือถือกาน้ำ ออกเดินนำหน้าอยู่ ก็นึกแปลกใจว่า ท่านลงจากดอยมาได้ยังไงกัน ทางก็ไกล ทั้งลาดชัน ขึ้นลงลำบาก สักครู่ ร่างท่านก็หายไป ก็เลยตัดสินใจไม่ไปรับจ้าง แต่นำน้ำดื่มขึ้นไปหาท่านแทน พอเจอหน้ากัน ท่านก็ทักเป็นภาษาไทยใหญ่ว่า “หายไปนาน น้ำดื่มหมดแล้ว กลัวว่าเดี๋ยวจะออกจากบ้านไปก่อน ก็เลยรีบมาเตือนให้นำน้ำดื่มขึ้นมาให้ด้วย” !?!

- เรื่องเล่าจากหลวงพี่นิ่ม พระสงฆ์รูปหนึ่ง ชอบฝากตนเป็นศิษย์หลวงปู่ หลวงพ่อต่าง ๆ และศึกษาทางจิตศาสตร์ สักยันต์ลงของได้ มีวิชาอาคมพอสมควร ได้ขึ้นไปกราบครูบาออ ขอเรียนวิชาด้วย ความที่อยู่บนดอยสูงภาคเหนือจึงฉันภัตตาหารแบบตามมีตามเกิด คือข้าวนึ่ง น้ำพริก ผักจิ้ม ยืนพื้น ครั้นอยู่นานเป็นสัปดาห์ก็เบื่ออาหารฉันได้น้อยลง ครูบาออ ท่านคงรู้อาการ เย็นวันหนึ่ง เห็นท่านเอากระป๋องพลาสติกเปล่า ๆ ไปแขวนไว้บนต้นไม้ พอตอนเช้ามาท่านบอกให้ไปดูที่กระป๋อง ก็เจอคราบน้ำ และพบปลาช่อนตัวเขื่องอยู่ในนั้น 1ตัว มีน้ำพอท่วมหลังปลา พอดีกับศิษย์ท่านขึ้นมากราบท่าน จึงนำปลาช่อนทำอาหารถวายพระพระนิ่มเล่าว่า วันนั้นฉันอาหารได้มากเป็นพิเศษ ที่อร่อยคือ เนื้อปลาช่อนที่ครูบาออ ดักด้วยกระป๋องเปล่าบนต้นไม้กลางดอยสูง น่าแปลก ปลาช่อนนา ขึ้นไปอยู่ในกระป๋องที่แขวนไว้บนต้นไม้ กลางดอยสูงได้อย่างไร

- เรื่องเล่าจากผู้เขียนเอง ตัวผู้เขียน จะบุกป่าขึ้นดอยไปกราบท่านครั้งแรก เพราะได้ยินเพื่อนบอกเล่าถึงความเก่งกล้าของท่านมานานแล้ว คืนก่อนวันขึ้นดอยได้อธิฐานกับท่านว่า หากท่านมีญาณวิถีรู้วาระจิตคน และจะได้มากราบเป็นศิษย์ท่านแล้ว ขอให้เอ่ยปากขอเกศาจากท่าน แล้วท่านมอบให้โดยดี เรื่องนี้ผู้เขียนอธิฐานในใจคนเดียว รู้เพียงคนเดียว พอวันรุ่งขึ้นนั่งรถขึ้นดอยจอมแวะกับเพื่อน ๆก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เราไปถึงดอยประมาณเกือบบ่ายโมง พอผู้เขียนกราบท่าน ท่านจ้องหน้าผู้เขียนอยู่นาน แล้วท่านเดินหายเข้าไปห้องข้างใน กลับมาพร้อมกับถุงพลาสติก แล้วท่านก็ยื่นถุงนั้นให้ผู้เขียน พูดเป็นภาษาไทยใหญ่ แปลได้ว่า “ เตรียมไว้ให้แล้ว ” พอผู้เขียนเปิดถุงดู กลายเป็นเส้นเกศาของท่านเต็มไปหมด ผู้เขียนถึงกับขนลุกซู่ !!นี่ท่านล่วงรู้ใจของผู้เขียนได้อย่างไร ?? หรือท่านจะทรงอภิญญาญาณจริงดั่งคำเขาเล่าลือกัน สอบถามหลานท่านได้ความว่า ตอนเช้ามืด ท่านเรียกหาให้หลานท่านโกนผมให้หน่อย บอกเพียงว่า “มีคนจะขอ ต้องเตรียมไว้ให้เขา เขาจะมาช่วยสร้างถนนขึ้นพระธาตุ”



เนื่องจากสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะที่ครูบาออ อยู่จำพรรษานั้น เป็นดอยสูง ไม่มีถนน ทั้งทางขึ้นดอยก็ลาดชัน รถยนต์ ไม่สามารถขึ้นไปได้ สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งไฟฟ้า และน้ำประปาก็ไม่มี อาศัยเพียงน้ำฝน และแผงเซลล์รับแสงอาทิตย์ ศิษย์จะขึ้นไปกราบท่านต้องนำน้ำดื่มไปถวายเป็นขวดๆ ทั้งสำนักสงฆ์ก็ยังขาดเสนาสนะอีกมาก จึงกราบเรียนเชิญนักนิยมพระเครื่องดี เกจิดัง วัตถุมงคลขลัง ร่วมทำบุญสร้างทางขึ้นดอย กับหลวงปู่ครูบาออ ปณฑิโต วัดพระธาตุดอยจอมแวะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

อานิสงค์ สร้างทางขึ้นดอยสู่องค์พระธาตุ เหมือนสร้างทางขึ้นสวรรค์ สร้างวิมาน สร้างบารมีใหญ่ เดินทางปลอดภัย ขึ้นเหนือได้โชค ลงใต้ได้ลาภ เป็นมหาเศรษฐีในเร็ววัน เป็นใหญ่เหนือคน ไม่จน ไม่เจ็บ ตายไปเกิดบนสวรรค์ชั้นฟ้า ลงมาเป็นมนุษย์ จะถึงพร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ มหาศาล มีอานิสงค์เหลือคณานัป ท่านร่วมบุญสร้างทาง ครูบาออ มีวัตถุมงคลมอบให้เป็นที่ระลึก ซื้อไม่ขาย ขอให้ทำบุญ ร่วมทำบุญได้ที่ www.AmuletAt7.com/ครูบาออ