วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

หลวงพ่อจอน วฑฺฒจิตฺโต วัดบุญฤทธิ์

หลวงพ่อจอนท่านเชี่ยวชาญเรื่องวิชาเทพราหู ในดินแดนถิ่นอิสานเมืองหมอแคนไม่มีใครเปรียบได้ ท่านได้เรียนมาจากขอมลาวบรมครู ใช้แก้ดวงลูกศิษย์มาถึงหกสิบปีซึ่งบ่งบอกและพิสูจน์ได้ว่าท่านเก่งจริง ท่านดังมาได้เพราะท่านสำเร็จวิชาเทพราหูที่ดั้นด้นไปเรียนวิชาดั้งเดิมถึงเมืองเวียงจันทร์ประเทศลาว เมื่อสืบค้นเทียบเคียงตำราแล้วเป็นตำราเดียวกันกับที่โยมพ่อหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง สอนให้หลวงพ่อน้อยไม่มีผิดเพี้ยน นั่นหมายความว่าท่านได้เรียนมาจากต้นวงศ์สายบรมครูเดิมของวิชานี้เลย จึงไม่แปลกใจว่าบรรดาพ่อค้าประชาชน ข้าราชการ ทหาร−ตำรวจ นักการเมือง มุ่งหน้าเข้าวัดบุญฤทธิ์ให้ท่านทำวิชาราหูให้ ราหูที่ท่านสร้างแต่ละรุ่น หายากและมีราคาค่านิยมสูงมาก ท่านได้ธุดงค์ไปเรียนวิชาจากหลายสำนักอาทิ สายสมเด็จลุน ประเทศลาว,หลวงพ่อตะเบง ประเทศพม่า, หลวงพ่อจันภูมิ พระเกจิชาวเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา, หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน, พ่อครูหลวงปู่ใหญ่, ปู่ฤาษีตาไฟ, ท่านพ่อปู่มิ่งตาทิพย์ เมืองเสียมราช ประเทศเขมร สายบรมครูปู่เทพโลกอุดร พระกายสิทธิ์ที่อุดมไปด้วยอิทธิฤทธิ์ ซึ่งยากที่จะหาใครที่อดทนบำเพ็ญเพียรร่ำเรียนจนสำเร็จ

หลวงพ่อจอนท่านเคยเดินธุดงค์เข้าไปในป่าห้วยขาแข้งซึ่งเป็นป่าที่ห้ามคนนอกเข้าไปโดยเด็ดขาดในสมัยนั้น หลวงพ่อจอนท่านเล่าว่า มีแต่สัตว์ดุร้ายทั้งนั้น มีทั้งเสือ สิงโต หมี เดินกันเหมือนในสวนสัตว์ แต่ก็ไม่ทำอะไรท่านมีเพียงแต่มองผ่านไป ครั้นถึงเวลามืดก็จะปักกรดท่านก็เลือกที่มีบริเวณแอ่งน้ำ แต่หารู้ไม่นั่นเป็นแหล่งรวมสัตว์ต่างๆ จะลงมากินน้ำในเวลากลางคืน ท่านบอกว่าพวกสัตว์จะเดินรอบกรดท่านตลอดแต่ก็ไม่ทำอะไร เมื่อตกดึกบรรดาพวกสัตว์ต่างๆ ก็พากันแยกย้ายกันออกไป ท่านจึงเจริญกรรมฐานนั่งสมาธิ เห็นดวงวิญญาณที่เร่ร่อนอยู่มากมาย บางตนก็มาขอท่านก็กรวดน้ำให้แล้วก็ไป บางตนมาแบบนักเลง เขย่ากรดจนสั่นไหว แต่ท่านก็นิ่งจนเห็นว่าไม่ยอมรับส่วนบุญแน่แล้ว ท่านจึงเด็ดต้นหญ้าแล้วบริกรรมคาถาเทพราหูบันดาลฤทธิ์ เสร็จแล้วก็ปล่อยให้ออกไปจากกรด ท่านบอกว่าวิญญาณพวกนั้นหายไปแบบไม่เหลือเลย ท่านจึงมั่นใจว่าวิชาที่เล่าเรียนมาใช้ได้ผล ในสมัยก่อนแถบผืนป่าดงพญาเย็นเป็นอะไรที่ไม่มีใครอยากมา ซึ่งเป็นป่าดงดิบอันตรายจากสัตว์ร้ายนาๆ ชนิด อากาศเย็นมาก ผีสางนางไม้ดุ ผีปอบนี่เป็นที่หนึ่งเลยในสมัยนั้น แต่ก็ใช้คาถาเทพราหูบันดาลฤทธิ์สงเคราะห์ทุกคนจนมาถึงทุกวันนี้



เทพราหู หลวงพ่อจอน แก้ดวงชง ปี ๕๖ สำหรับในปี พ.ศ.๒๕๕๖ ที่จะมาถึงนี้ซึ่งตรงกับปีมะเส็ง (งูเล็ก) ตามหลักศาสตร์จีนโบราณหรือโหราศาสตร์ไทยก็ดี ดวงที่ชงกับปีมะเส็งได้แก่ ผู้ที่เกิดปีกุน ปีมะเส็ง ปีขาล ปีวอก ถือว่าเป็นที่ไม่ดีใน พ.ศ.๒๕๕๖ ถ้าปีไหนเป็นปีที่ดวงชงถือว่าไม่เป็นมงคลกับชีวิต อาจจะเจ็บไข้ได้ป่วย การงานไม่ราบรื่น ธุรกิจขาดทุนเสียหาย ทะเลาะกับคนรอบข้าง ความรักแตกหักกลางคัน หรือมีเหตุร้ายต่างๆ เกิดขึ้นอาจถึงชีวิตก็เคยมีมา ตามตำราศาสตร์จีนโบราณให้ไปไหว้ องค์ไท่ส่วย แล้วจะดีเอง ในโหราศาสตร์ไทยให้บูชาองค์เทพราหู เพื่อเป็นการคุ้มดวงให้พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ คุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย และเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน รวมถึงทรัพย์สินเงินทองที่แสวงหาอยู่หรือมีอยู่แล้ว ซึ่งตามพุทธสุภาษิตว่า ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ หรือจะแก้ด้วยวิธีเครื่องเซ่นของดำแปดอย่างสิบสองอย่าง หรือทำบุญสะเดาะห์เคราะห์ตามความเชื่อในแต่ละประเพณี เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ แม้ไม่เชื่อแต่ก็ไม่ลบหลู่ หนึ่งชีวิตมีค่ามหาศาล กันไว้ดีกว่าแก้ ขืนปล่อยให้แย่ อาจจะไม่มีโอกาสแก้ก็ได้ เพื่อความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตของทุกท่าน

วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

หลวงพ่อชู วัดทัพชุมพล นครสวรรค์

หลวงพ่อชู เตชธัมโม วัดทัพชุมพล อ.เมือง นครสวรรค์ พระขลัง เสกของแรง ประสบการณ์สูง เหรียญนารายณ์ปราบจักรวาล รุ่นแรก ดังกระหึ่มในวงการพระเครื่องขณะนี้ ตำรวจสายปราบปราม หากันให้ควัก ก็ มีด ปืน ไม้คมแฝกไม่ได้กินเลือด และอีกหลายร้อยประสบการณ์จริง ..ยืนยันหนักแน่น จะไม่ให้หลวงพ่อเสกพระเก่ง เสกพระขลังได้อย่างไร ก็ท่านเรียนมาจากครูผู้เรืองเวทย์ชั้นสูง ถึง 12 สาย ดังนี้
  1. สายหลวงพ่อทอง วัดราชโยธา เรียนจาก พ่อเขียน ไกรทองสุข 
  2. สายหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง เรียนจาก พระสมุห์ชาลี วัดวังยาว ปราณบุรี 
  3. สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เรียนจาก ครูทัน รุจิเรส (ตำรา อ.ประสงค์ ลงทองทั้งตัว กระโหลกทอง) 
  4. เรียนจาก อาจารย์ใบ ทับทอง สายวัดสมรโกฎิ 
  5. เรียนจาก อาจารย์ประยูร จิตโสภี สายอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง 
  6. เรียนจาก อาจารย์ชุม ไชยคีรี สายเขาอ้อ 
  7. เรียนจาก อาจารย์หมอริ ภู่โพธิ์ สายหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์
  8. เรียนจาก อาจารย์ฐาปนา บุญป่อง สายวัดสามวิหาร อยุธยา 
  9. เรียนจาก หลวงปู่รอด วัดสันติกาวาส พิษณุโลก 
  10. เรียนจากครูหมุด ผ่องศรี สายราชสำนักกำพูชา 
  11. เรียนสักยันต์จาก หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี 
  12. เรียนจากหลวงพ่อเคน วัดห้วยเจียว พิษณุโลก
นี่แค่เพียงครูอาจารย์ที่มีชีวิต สืบค้นได้ ยังเพียงนี้ ส่วนครูเทพ ครูพรหม ครูยม ครูยักษ์ ครูพระฤาษี นั้น ท่านเรียนมาโชกโชนกว่านี้มาก ถึงได้กล้ารับประกันว่า พระเครื่องของท่าน เป็นประเภท ของจริง ลองได้ พลังสูง ประสบการณ์เพียบ (ใช้ของใครไม่ได้ผล อย่าท้อ ลองของขลังหลวงพ่อชูดู จะรู้ว่า ..นี่ของจริง...)

เจ้าตำหรับ เสก สัก สับ จับ ดิ้น อยากได้ของดี อยากมีของแรง ห้ามพลาด !!!

สัก คือหลวงพ่อชู เป็นพระอาจารย์สักยันต์มาก่อน ศิษย์สักยันต์ของท่าน ตั้งแต่รุ่นแรก ยันรุ่นนมแตกพาน หนังเหนียวยังกลองเพล แมงวันไม่ได้ตอมเลือด หนักหนาสาหัส ก็แค่เลือดซึมเป็นยางบอน

สับ คือ สักยันต์เสร็จ ต้องสับ ฟันด้วยมีดดาบคมกริบ ลองเสียให้รู้ว่าขลัง พอจะคุ้มตัวศิษย์ได้ไหม ถ้าไม่ดี ฟันเข้า ยิงออก ก็จะเผาตำราทิ้ง รื้อหิ้งบูชาเก็บ /สับมาเป็นพัน ฟันมาเป็นร้อย ไม่เข้า ไม่ระคายผิว จะว่ามีดไม่คมก็ไม่ใช่ เพราะฟันด้วยสปาต้า และมีดดาบซามูไร (เดี๋ยวนี้ไม่ลองแล้ว เพราะวิชาหลวงพ่อเหนือขั้นนั้นไปแล้ว)

จับ ดิ้น คือ ใครมีของ มีองค์ มาอยู่ตรงหน้าหลวงพ่อชู เป็นแสดงตัวหมด ปิดบังอำพรางไม่ได้ บางคนรำป้อ บางคนเป็นคนแก่ ต้องก้มกราบท่าน บางคนเป็นร่างทรงฤาษีมีฤทธิ์มาก เห็นหน้าหลวงพ่อชู หัวเราะเป็นคนแก่ ร้องถาม “จำได้ไหม นี่เพื่อนกัน” คุยกันสนุก บางคนโดนของต่ำ คุณคน คุณไสย ใส่มานานแสนนาน หาหมอแก้หลายหมอ หมดหมอ หมดเงินไปมาก ก็แก้ไม่หาย มาอยู่ต่อหน้าหลวงพ่อชู ถ้าเป็นผู้ชาย ท่านจะจับมือ ถ้าเป็นผู้หญิง ท่านจะจับเครื่องใช้ ไม้สอย เช่นกระเป๋าถือ คนไข้จะดิ้น ของจะเสื่อมทันที บางคนโดนน้ำมันพรายผี นั่งอยู่ดี ๆ น้ำมันผุดจากปลายมือ ออกเฉยเลย

เสก คือ หลวงพ่อชู เสกพระเก่ง เสกของเป็น พระเครื่องของท่านมีจิต มีวิญญาณ (โบราณว่าอักขระเต็นได้ มีหัวใจ มีธาตุ มีขันธ์ )ขอได้ บนได้ มีพลังทิพย์ พลังเทพ สำผัสได้ บูชาเรื่อย ๆ กลับมีพุทธคุณเพิ่มมากขึ้น ใครจับพลังได้ ลองดู ใครสำผัสเทพได้ ลองดู ใครอยากได้ของจริง ของแท้ แน่ต่อการพิสูจน์ ลองดู ...

ฤาษีครูเพชรฉลูกรรณ์ (ปางเสมอเถร) ขนาดบูชา รุ่นแรก รุ่นไหว้ครู 55

วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน

วัตถุมงคล หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ที่จัดสร้างขึ้นนั้น ล้วนแต่ได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างมาก เนื่องจากมีพุทธคุณครอบจักรวาล โดดเด่นในหลากหลายด้าน ที่เสาะหากันอยู่ขณะนี้ ได้แก่ เหรียญใบเสมา รุ่นเหรียญบิน ปี 2513, เหรียญบาตรน้ำมนต์, พระกริ่งบาเก็ง, สมเด็จยันต์พระเจ้า 5 พระองค์ เป็นต้น วัตถุมงคลหลวงพ่อทรง มีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดคงกระพันชาตรี บังเกิดแก่บรรดาสาธุชน จนได้รับสมญานามจากคณะศิษยานุศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธาว่าเป็น “เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย” ท่านย้ำอยู่เสมอว่า “วัตถุมงคลทั้งหลายล้วนเข้มแข็งด้วยอำนาจแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ” รวมทั้ง ท่านจะกล่าวสอนอยู่เสมอว่า “การทำจิตใจให้สงบ รู้จักปล่อยวางในสิ่งต่างๆ อย่าไปยึดติดกับสิ่งต่างๆ มากเกินไป หมั่นสวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิระลึกถึงปฏิบัติในพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะคำสั่งสอนของท่านเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด หาคำสอนใดมาเปรียบเทียบมิได้เลยทีเดียว และการที่เราเกิดมาพบพระพุทธศาสนาเป็นอะไรที่ประเสริฐที่สุดแล้วในชาตินี้



หลวงพ่อทรง พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดศาลาดิน (วัดมอญ) ได้รับการยกย่องว่าเป็นเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้า เป็นที่เลื่องลือไปทั่วภาคกลาง แต่การเข้ากราบไหว้ขอพรจากท่าน มิใช่เรื่องยากเย็น ทุกคนมีโอกาสเสมอเหมือนกันหมด ไม่มีผู้ใดกีดกัน ท่านมักจะนำวิชาความรู้ด้านวิทยาคมเป็นกุศโลบายในการอบรมสั่งสอนศีลธรรมแก่ประชาชนทั่วไป ให้ยึดหลักธรรมคำสั่งสอนตามแนวทางพระพุทธศาสนา เป็นวิถีสำคัญในการประพฤติปฏิบัติตน ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ถ้ามีพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่ไหน จะต้องเห็นหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน นั่งปรกปลุกเสกกับพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัย ความเป็นเอกอุด้านไสยเวทวิทยาคมไม่แตกต่างกัน

การมรณภาพของหลวงพ่อทรง ฉันทโสภี อย่างไรก็ดี ด้วยสังขาร คือ อนิจจัง เป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ครั้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ.2550 เวลาประมาณ 21.00 น. หลวงพ่อมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยหอบ หายใจขัด เนื่องจากมีกิจนิมนต์มาก เมื่อลูกศิษย์เห็นว่าอาการไม่ดี จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง แพทย์ได้ทำการรักษา แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ในที่สุด เมื่อเวลา 22.50 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ.2550 ท่านได้ละสังขารจากไปอย่างสงบ ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ณ โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ หลังจากเข้ารับการรักษาอาการท่อปัสสาวะอักเสบ มาก่อนหน้านี้ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน สิริอายุรวม 83 พรรษา 62 ท่ามกลางความเศร้าสลดและความอาลัยเป็นอย่างยิ่งของบรรดาคณะศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั่วไป หลวงพ่อทรง ท่านเป็นพระสงฆ์สุปฏิปันโนอย่างแท้จริง แต่ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ ท่านได้ละสังขารตามกฎไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ถือว่าวงการสงฆ์ต้องสูญเสียพระเถระรูปสำคัญ ผู้บำเพ็ญคุณูปการต่อชาวเมืองอ่างทอง ด้วยความอุตสาหวิริยะมาอย่างยาวนาน เหลือทิ้งไว้แต่ผลงานอันทรงคุณค่าที่อุทิศให้แด่พระพุทธศาสนา เป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำไว้เบื้องหลัง ทั้งนี้ ทางคณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ได้จัดงานบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม และตั้งศพให้ญาติโยมและพุทธศาสนิกชนทั่วไปได้กราบไหว้ เป็นเวลา 7 วัน ณ วัดศาลาดิน (วัดมอญ) จนกว่าจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพต่อไป


กำหนดการพระราชทานเพลิงศพของพระครูสุภัทรธรรมโสภณ (หลวงพ่อทรง ฉันทโสภี) อดีตเจ้าคณะตำบลม่วงเตี้ย และอดีตเจ้าอาวาสวัดศาลาดิน (วัดมอญ) จ.อ่างทอง ตรงกับวันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2552

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้า 1 คอลัมน์ มงคลข่าวสด วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 5988

วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

หลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี

เอ่ยนาม พระครูอุปกิตสารคุณ หรือ "หลวงพ่อเสน่ห์" วัดพันสี ต.ท่าโพ อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี ลูกศิษย์ต่างรู้จักกันดีว่า ท่านมีจริยาวัตร นุ่มนวล เหมาะสมกับพุทธบุตร ท่านมีบุคลิกที่เรียบง่าย แต่เชี่ยวชาญทางด้านวิชาอาคมต่างๆ วัตถุมงคลทุกรุ่นกำลังได้รับความนิยมจากนักสะสม พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่นสำคัญ ๆ หลังปี 2525 ต้องมีท่านร่วมปลุกเสกด้วยเสมอ

หลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี


สมัยก่อนสุดยอดพระเกจิอาจารย์ปลุกเสกเก่งต้องมีชื่อ หลวงพ่อแพ จ.สิงห์บุรี, หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย, หลวงพ่อไวย์ วัดบรมฯ, หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า , หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ, หลวงพ่อดี วัดพระรูป และหลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี เป็นต้น

"หลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี" ปีนี้ (พ.ศ.2555 ) สิริอายุเข้าวัยชรา 82 ปีแล้ว ท่านบวชตั้งแต่ปี 2496 นับเนื่องถึงปัจจุบัน 59 พรรษา ท่านบวชกับหลวงพ่อชิต วัดยางขาว ที่สืบสายวิชาหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว เป็นพระคู่สวด

นอกจากนั้นยังเป็นศิษย์หลวงปู่สี เขาบุญนาค พระอรหันต์ 7 แผ่นดิน เรียนสายหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ จากหลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว ซึ่งสร้างเหรียญรุ่นแรกก็ดังกระหึ่ม เมื่อปี 2520 เกิดปาฏิหาริย์ควายขวิดไม่เข้า เหรียญนั้นจึงเรียกว่า "เหรียญควายขวิด" ตั้งแต่นั้นมา หลวงพ่อเสน่ห์ท่านเป็นพระใจดีมีเมตตามาก เป็นที่พึ่งของทุกคน

ตอน ที่ "หลวงปู่สี ถ้ำเขาบุญนาค" ยังดำรงขันธ์อยู่ ท่านเคยทำนายไว้ล่วงหน้าว่า อาจารย์เสน่ห์บารมีมาก จะดังตอนแก่ ยิ่งนานวันแสงแห่งศรัทธา ความชัดเจนแจ่มใสในพุทธาคมที่แก่กล้า สั่งสมมานาน ปรากฏชัดเจนในหลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี แห่งเมืองอุทัยธานีแล้ว

วัตถุมงคลของหลวงพ่อเสน่ห์มีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดเล่าขานกันปากต่อปาก เมื่อ ส.อ.เกรียงศักดิ์ สร้อยระย้าแก้ว ค่ายจิรประวัติ ปฏิบัติหน้าที่ชุดคุ้มครองครู โดนวางระเบิดทั้งรถ มีทหาร 7 นาย แรงระเบิดทำให้มีสะเก็ดติดตามตัว เสื้อผ้าขาด แต่ทั้ง 7 นายรอดได้อย่างปาฏิหาริย์ ทั้ง 7 มีตะกรุด และยันต์หมวก ที่หลวงพ่อเสน่ห์ แห่งวัดพันสี ลงให้ทั้งสิ้น

อีกเหตุการณ์หนึ่ง เมื่อ ส.อบต.ท่าโพธิ์ เกิดอุบัติเหตุรถชนพังยับ ส.อบต.คลานออกมาจากรถ ไม่เป็นอะไรเลย รถพังขนาดชาวบ้านนึกว่าผี หรือวิญญาณ ลอยออกมาได้ ในตัวพกตะกรุดของหลวงพ่อเสน่ห์ดอกเดียวเท่านั้น


ล่าสุดหลวงพ่อเสน่ห์ได้อนุญาตให้คณะศิษย์ได้จัดสร้าง "เหรียญเสน่ห์ดี มีสตางค์" และวัตถุมงคลอื่น ๆ ขึ้นเพื่อฉลองตำแหน่งเจ้าคณะตำบลชั้นเอก และฉลองอายุ หลวงพ่อครบ 82 ปี โดยทำพิธีอธิฐานจิตปลุกเสกเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 โดยวัตถุมงคลทั้งหมด มีพุทธคุณสูง สมดั่งคำพยากรณ์ ของหลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาคที่ว่า “ท่านเสน่ห์ มีบารมีมาก จะดังตอนแก่

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เศรษฐีนวโกฏิ หลวงปู่ผล วัดอินทาราม

พระเถราจารย์แห่งเมืองกรุงเก่า นาม หลวงปู่ผล อินฺทกุสโร วัดอินทาราม สุดยอด พุทธาคม ด้านเมตตา มหาลาภ ทำมาค้าคล่อง เสริมสิริ มงคล หลวงปู่ผลเป็นศิษย์หลวงพ่อคง วัดอินทาราม พระอภิญญาจารย์ผู้ เสกตะกร้อเข้าขวดนํ้า ซึ่งแม้แต่หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ยังยกย่องทั้งยัง เรียนวิชาเมตตามหานิยม การครอบเศียรพระ เศียรครูจากหลวงปู่เกลี้ยง วัด ตะกู เจ้าตำรับวิชาสาลิกา กอไผ่แตก เรื่องเมตตาค้าขาย และมหาโภคทรัพย์ จึงแรงไม่เป็นรองใคร

หลวงปู่ผล เมตตาจัดสร้างพระเศรษฐีนวโกฏิ ปางเสกบาตร รุ่นแรกขึ้น ในราชาฤกษ์ และธนฤกษ์ โดยอัญเชิญบารมีของมหาเศรษฐีทั้ง 9 ท่าน ในสมัย พุทธกาล มาสถิตในองค์พระ (มหาเศรษฐีแต่ละท่านผูกแทนหนึ่งหน้าพระพุทธรวม 9 ท่าน 9 หน้าพระพุทธ เป็นเคล็ดว่าบูชา พระเก้าหน้า ย่อมจะก้าวหน้า เจริญต่อไป ไม่หยุดยั้ง) พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ปางเสก บาตร เรียกทรัพย์ บูชาที่บ้าน ที่บริษัท รวยทั้ง บ้าน รวยทั้งบริษัท รวยใหญ่ แก้เคล็ดแก้ดวง ชง เกิดประสบการณ์กันมาก เป็นที่ต้องการ ดังไปไกลถึงต่างประเทศ ในเรื่องเมตตา ค้าขายดีจนเป็นที่กล่าวขานหลายคนบูชาไม่ นาน มีหน้าที่การงานดี ชีวิตดีขึ้น ค้าขายดี มีเงินทองเหลือกินเหลือเก็บมากมาย

เศรษฐีนวโกฏิ  เนื้อสัมฤทธิ์ ชุบเงิน หลวงปู่ผล วันอินทาราม

พระมหาเศรษฐีนวโกฏิปางเสกบาตร จึงเป็นพระที่ทรงคุณค่า และศักดิ์สิทธิ์มาก มีพุทธคุณหนนุ นำ การค้าขาย กิจการก้าวหน้าไม่อดไม่อยาก ไม่ยากไม่จน เหนือคน โภคทรัพย์เพิ่มพูนเหมาะ ที่จะตั้งบูชาประจำบ้าน บริษัท หรือบ้านเรือน เพื่อความงอกงามไพบูลย์ของ กิจการ

พระเศรษฐีนวโกฏิปางเสกบาตร หลวงปู่ผล นี้ชาวบ้านเรียกว่า่ พระเก้าหน้า้ มีติดตัว บูชาแล้ว จะเจริญก้าวหน้าสมดังชื่อพระเป็นเอกด้านโภคทรัพย์ ความอุดม สมบูรณ์ทำมาหากินขึ้นรํ่ารวย เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี เสมอกับมหาเศรษฐี ทั้ง 9 ท่าน ผู้อุปถัมภ์พระพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาลคือ

  1. ท่านธนัญชัยเศรษฐี มีบุญมาก แม้เอาตุ่มเปล่าไปตั้งไว้หน้าคฤหาสน์ เทวดายังใส่แก้วแหวน เงินทอง จนเต็มตุ่ม 
  2. ท่านยัสสะเศรษฐี มีเงินทองมากมาย และมียศสูง ได้เป็นขุนคลังของพระมหาจักรพรรดิถึง 3 พระองค์ และได้เคยอุปัฏฐากพระพุทธเจ้าถึง 3 พระองค์ด้วยกัน ท่า่นสุมังคะเศรษฐี เมื่อกำเนิดมี ขุมทอง ขุมเพชร ขุมทรัพย์สินมีค่า เกิดขึ้นตามมาด้วยในอดีตชาติที่เกิดมาไม่เคยได้ยินคำว่า “ไม่มี” เลย 
  3. ท่านชะฎิสัสสะเศรษฐี แม้นำทรัพย์ไปบริจาคทานนานถึง 3 ปีเต็ม ทรัพย์ไม่พร่องเลย เพราะเทวดามาช่วยให้ทรัพย์เพิ่มพูนตลอดเวลา 
  4. ท่านอนาถะปิณฑิกะเศรษฐี นอกจากมีเงินทองมากมายแล้วยังพระอริยบุคคลหลุดพ้นจากบ่วงกิเลศอีกด้วย เรียกว่าเศรษฐีใจบุญ 
  5. ท่านเมณทะกะเศรษฐี ผู้ตั้งโรงทานไว้ 8 ทิศ เลี้ยงดูผู้คนนับแสนๆคน 
  6. ท่านโชติกะเศรษฐี ทรัพย์สินมีมากมาย มีแก้วไพฑูรย์วิเศษ บันดลเงินทองให้เพิ่มพูนอยู่เสมอ 
  7. ท่านสุมะนะเศรษฐี ครั้งหนึ่งโจรมาขโมยแก้วแหวนเงินของ
  8. ท่านทรัพย์ที่โจรแบกไปกลับเพิ่มขึ้น เรื่อยๆ จนโจรแบกไม่ไหว ทรัพย์ทับตาย ณ กลางป่า 
  9. ท่านวิสาขะมหาอุบาสิกา เป็นมหาเศรษฐีผู้มีทรัพย์มาก ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นผู้อุปัฏฐากพระพุทธเจ้า และพระสาวก บั้นปลายชีวิตได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์
หลวงปู่ผลได้สร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ปางเสกบาตร ขึ้นเพื่อหวัง อานิสงส์ดลบันดาล ให้ผู้บูชาบังเกิดความอุดมสมบูรณ์ในทรัพย์สินเงินทอง ดุจท่านธนัญชัยเศรษฐี ให้โภคทรัพย์น้อยใหญ่จากทั่วสารทิศ จงหลั่งไหลมา สู่ผู้บูชา ดุจท่านสุมะนะเศรษฐี ให้บ้านเรือนร้านค้า ห้างร้าน บริษัท ร่มเย็น เป็นสุขและเจริญก้าวหน้า มีลูกค้าแวะเวียนมาซื้ออยู่ประจำเงินทองเข้ามามิได้ ขาด ดุจท่านชะฏิสัสสะเศรษฐี บังเกิดลาภสักการะทุกเช้าคํ่ามิให้ขาด ให้ทรัพย์ สมบัติเพิ่มพูนทวีมิได้ลดทอน ดุจท่านเมณทะกะเศรษฐี ให้มั่งมีทรัพย์สมบัติ แล้วใจบุญสุนทานมีข้าทาสบริวารที่ภักดี ดุจท่านอนาถะปิณฑิกะเศรษฐี ให้ มั่งมีแก้วแหวนเพชรอันวิเศษ ดุจท่านโชติกะเศรษฐี ให้ครองทรัพย์สินเงินทองได้ นานชั่วนิรันดร์ ปลอดภัยจากโจรภัยทั้งปวง ดุจท่านสุมังคะเศรษฐี ให้มีรูปโฉม งดงามสง่าราศีแจ่มใส เย็นตา น่าดู น่าชม น่านิยมรักใคร่ ดุจท่านวิสาขะมหา อุบาสิกา ให้ท่านสมบูรณ์ด้วยโภคาหาร แวดล้อมด้วยบริวารทั้งปวง