วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

พ่อท่านแสง อาภาธโร แห่ง วัดศิลาลอย

พ่อท่านแสง อาภาธโร แห่ง วัดศิลาลอย ท่านเป็นศิษย์ของท่านอุปัชฌาย์แก้ว พุทธมุนี วัดดีหลวง ท่านอุปสมบทพร้อมกันรวมสามองค์คือ

1. พระครูโอภาสธรรมรัตน์ (แสง อาภาธโร) วัดศิลาลอย
2. พระครุประภัสสรขันติคุณ(ผ่อง ขันติพโล) วัดนางเหล้า(มรณะภาพแล้ว)
3. อาจารย์แดง วัดนางเหล้า(มรณะภาพแล้ว)

เมื่ออุปสมบทแล้วทั้งสามองค์ ได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้ และ ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ตลอดถึงศึกษาพุทธาคม เวทย์มนต์คาถา จากองค์อุปัชฌาย์ของท่านจนหมดสิ้น ท่านอยู่ศึกษาอยู่ที่วัดดีหลวงอยู่หลายพรรษา ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปโดยพ่อท่านผ่อง ขันติพโลและอาจารย์แดง ได้ไปจำพรรษาวัดนางเหล้า และท่านได้มาอยู่จำพรรษาที่วัดศิลาลอย และท่านก็ได้พัฒนาวัดศิลาลอย ตลอดถึงเมตตาสั่งสอนศิษย์ สงเคราะห์ญาติโยม ที่เข้ามาขอความเมตาจากท่านอย่างสุดความรู้ความสามารถ


เมื่อครั้งวัดพระโคะสร้างหลวงปู่ทวดเนื้อว่านปี2505 ท่านเป็นองค์ดำเนินการในด้านพิธีกรรม ตลอดถึงมวลสารต่างๆ ท่านมีความเชี่ยวชาญในด้านว่านยาอย่างเอกอุ ท่านมีความพิถีพิถันในเรื่องพิธีกรรมและเคร่งครัด ห้ามมิให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาข้องแวะโดยเด็ดขาด หากมีความจำเป็นต้องมีผู้ร่วมประกอบพิธีกรรมท่านจะต้องให้ถือศิลปฏิบัติตนให้บริสุทธิ์ ตลอดระยะเวลาที่ประกอบพิธีกรรม ท่านทุ่มเทตั้งใจสร้างหลวงปู่ทวดเนื้อว่านปี05 วัดพะโคะอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง ด้วยมวลสารชั้นครู ประกอบพิธีกรรมตามตำราบูรพาจารย์


วัตถุมงคล พ่อท่านแสง รุ่น มงคล๙

ในเรื่องการสร้างวัตถุมงคล พ่อท่านแสงไม่เคยสร้างวัตถุมงคลเป็นรูปเคารพท่านเลย ท่านจะสร้างเพียงรูปเคารพหลวงปู่ทวด หรือไม่ก็เหรียญรูปอุปัชฌาย์อาจารย์ท่านเท่านั้น ซึ่งการสร้างในแต่ละครั้งท่านจะดำเนินการอาราธนาอัญเชิญบอกกล่าวตามตำราที่ท่านได้ศึกษามาอย่างเคร่งครัดและสร้างเพื่อแจกจ่าย มอบให้ผู้ร่วมบุญในโอกาสต่างๆ ไม่ได้กำหนดราคาค่าทอน(บูชา)แต่อย่างไร วัตถุมงคลต่างๆที่ท่านสร้าง เสก แจกจ่ายมอบให้ศิษยานุศิษย์ไปนั้นก่อเกิดประสบการณ์มากมายเป็นที่เสาะแสวงหามาบูชาติดตัว ติดบ้านเรือน ตลอดถึงร้านค้าร้านขายเพื่อความเป็นสิริมงคล

วัตถุมงคล พ่อท่านแสง วัดศิลาลอย ที่เปิดให้เช่าบูชาผ่าน 7-Eleven และ www.AmuletAt7.com

วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

วัตถุมงคล แม่ชีบุญเรือน วัดอาวุธวิกสิตาราม

วัดอาวุธวิกสิตาราม หรือ วัดบางพลัดนอก เลขที่ 137 ถ.จรัญสนิทวงศ์ ซอย 72 แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพฯ  เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ได้รับการบูรณะปรับปรุงในปี พ.ศ.2435 โดยพระอายาวุธภัณฑ์เผด็จ เจ้ากรมคลังแสง ในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นผู้ถวายความอุปถัมภ์ จวบจนปี 2483 ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมหลวงวชิญาณวงศ์ จึงมีบัญชาให้พระสิทธิสารโสภณ (สงวน โฆษโก) วัดสัมพันธวงศ์ มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ในครั้งแรกนั้น พระมหารัชมังคลาจารย์เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ได้มีบัญชาให้แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม มาอยู่วัดอาวุธวิกสิตารามเพื่อปฏิบัติธรรม และ ถวายการดูแลอุปัฏฐาก พระภิกษุสามเณร และ ที่วัดอาวุธวิกสิตารามนี่เอง เป็นสถานที่ แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม ปฏิบัติธรรมจนสำเร็จฌานชั้นสูง และได้เริ่มสร้าง พระเครื่องรุ่นแรกในปีพ.ศ.2495 คือ พระพุทโธน้อย พระบูชาพุทโธกลางพระชัยวัฒน์พุทโธน้อย ด้วยพุทธคุณของพระเครื่องที่แม่ชีบุญเรือน ได้อธิษฐานธรรมปลุกเสก ทำให้ผู้ที่ได้ครอบครองพระพุทโธ มีประสบการณ์ปาฏิหาริย์จนเป็นที่นิยมในปัจจุบัน อีกทั้งยังหายาก มีราคาเช่าหาจากหลักหลายหมื่นปลายๆ จนถึงหลักแสนกลางๆ


ล็อคเก็ตแม่ชีบุญเรือนรุ่นสรงน้ำ 54


พระเทพปัญญามุนี(ทองดี ฐิตายุโก) เจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตารามรูปปัจจุบัน เห็นว่าปัจจุบันพระภิกษุสามเณรมาศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมในวัดอาวุธวิกสิตารามเป็นจำนวนมาก กุฏิพี่พักในปัจจุบันไม่เพียงพอ และ ชำรุดทรุดโทรมมากแล้ว สมควรสร้างหลังใหม่ ให้เพียงพอกับจำนวนพระสงฆ์กว่า 170 รูปในปัจจุบัน ท่านจึงมีดำริสร้างกุฏิสงฆ์โดยสร้างเป็นอาคาร 5 ชั้น งบประมาณ 30 ล้านบาท จะดำเนินการก่อสร้างในปี พ.ศ.2555 นี้


แบบอย่างอาคารกุฏิสงฆ์

จึงขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายได้ร่วมบูชาวัตถุมงคลที่วัดอาวุธวิกสิตารามได้จัดสร้าง เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารกุฏิสงฆ์ให้สำเร็จลุลวงไปด้วยดี

แผ่นพับเชิญร่วมเช่าบูชาวัตถุมงคล วัดอาวุธวิกสิตาราม
เช่าบูชาได้ที่ร้าน 7-Eleven และ www.AmuletAt7.com

วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

พิธีพุทธาภิเษก พระร่วงครองเมือง หลวงพ่อเงิน รุ่นสัมฤทธิโชค

พิธีบวงสรวงและพุทธาภิเษก วาระที่ 1 ณ อุโบสถวัดบางคลาน วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บวงสรวงหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

พระธรรมรัตนดิลก วัดสุทัศนฯ ประธานจุดเทียนชัย

พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
พระเกจิอาจารย์
  
พระธรรมรัตนดิลก วัดสุทัศนฯ - พระราชวิสุทธิโกศล วัดพิชัยญาติ

พิธีบวงสรวงและพุทธาภิเษกวาระที่ 2 ณ อุโบสถวัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพฯ วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฏาคม 2554
พระพรหมเวที ประธานจุดเทียนชัย

พระภาวนาจารย์ นั่งปรกอธิษฐานจิต

พิธีบวงสรวงและพุทธาภิเษกวาระที่ 3 ณ มหามณฑป วัดโบสถ์เมืองโบราณบางขลัง จ.สุโขทัย วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2554

บัณฑิตอ่าน โองการบวงสรวง

หลวงพ่อยุ้ย เจิมเทียนมหามงคล
พระมหาเถราจารย์ นั่งปรกอธิษฐานจิต
 
หลวงพ่อกฤษณะ วันราษฎร์ศรัทธาราม - พระมหาสุธี วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม

 
หลวงพ่อยุ้ย วัดคลองพระรอด - หลวงพ่อราม วัดวังเงิน

พระร่วงครองเมือง หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน รุ่น "สัมฤทธิโชค"
ดำเนินการจัดสร้าง โดยวัดไตรมิตรวิทยาราม(สาขา) ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

วัตถุประสงค์:
เพื่อร่วมสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม (ธรรมบันดาล) วัดไตรมิตรวิทยาราม (สาขา) ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

หลวงพ่อโต วัดหลักสี่

หลวงพ่อโต มิเกิดข้อยืนยันการสร้างและผู้ตั้งแต่เช่นใด แต่คาดการณ์ตามพุทธลักษณะแล้ว เชื่อว่าเป็นพุทธปฏิมากรดั้งเดิมสืบอายุยืนนานมาแต่ครั้ง กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี แต่เดิมหลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปในวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงคราม ต่อมาวัดดังกล่าวได้ถูกทิ้งให้ร้าง วันข้างหลังได้พังพินาศไปในแม่น้ำแม่กลอง ยังเหลือแต่หลวงพ่อโตถูกทิ้งๆ ขว้างๆให้อาบแดด ตากฝนบนเนื้อที่เพียงเล็กน้อย แต่ด้วยบุญฤทธิ์และด้วยเทวาภินิหารแห่งเทพองครักษ์รักษาองค์ หลวงพ่อโต จึงบันดลให้หลวงพ่อแฟง (เจ้าอาวาสรูปที่ ๒ ของวัดหลักสี่ฯ)ได้ไปพบเห็น จึงได้ขอจากทางการ เมื่อได้รับอนุญาต จึงอัญเชิญหลวงพ่อโต ท่านไปประดิษฐานเป็นกาลชั่วคราวที่วัดดอนมโนรา

หลวงพ่อโต วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร


เท่าที่หลวงพ่อโตไปอยู่วัดดอนมโนรานั้น มีสภาวะโทรมทรุดโทรมมาก แต่ก็ยังไม่ได้รับการปฏิสังขรณ์ตบแต่งแต่อย่างใด ต่อมา ราษฎรชาวหลักสี่ ได้พร้อมใจกันไปเชื้อเชิญ หลวงพ่อแฟง ให้ไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหลักสี่ฯ ทำต่อจากหลวงพ่ออำ ซึ่งได้สละตำแหน่งเจ้าอาวาสไปอยู่ที่อื่น หลวงพ่อแฟงเห็นแก่ลูกหลานและสานุศิษย์ของท่าน จึงรับอาราธนาไปเป็นเจ้าอาวาส และขอนำ หลวงพ่อโตไปด้วย เมื่อท่านมารับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ท่านจึงได้บอกแก่คนเดินดิน และลูกหลานให้ไปช่วยกันอัญเชิญหลวงพ่อโตมาจากวัดดอนมโนรา สู่วัดหลักสี่ฯ จึงเป็นที่กล่าวขานในนาม หลวงพ่อโต วัดหลักสี่ นั้นเองโดยที่ วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร เป็นวัดราษฎร์ แรกชื่อวัดใหม่หลักสี่ราษฎร์ศรัทธา ก่อสร้างขึ้นเมื่อปีมะโรง พุทธศักราช 2471 โดยที่พี่น้องร่วมชาติที่อยู่ในบริเวณหลักสี่และบริเวณกึ่งกลางคลองดำเนินสะดวกรวมตัวกัน สร้างขึ้นบนที่ดินของนายแจ่ม วาสุกรี ผู้มีจิตศรัทธายกที่ดินถวายให้เป็นที่ธรณีสงฆ์สำหรับสร้างวัดหลักสี่

วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร


วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

พ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ

เหตุด้วยการุณย์ของพ่อท่านพรหม ผู้ใดก็ตามจะมีคำถามไหน มีความทุกข์แบบไหน ในระยะหลังนี้คำเล่าลือของพ่อท่านพรหม และ พระเครื่อง ข้อวางตัวดำเนินการของท่าน นับวันกระจายแพร่หลายยิ่งๆ ออกไป ปูชนียวัตถุของพ่อท่านพรหมที่ได้ปลุกเสกพิษฐานใจโทน เมื่อมีคนธรรมดา เสมียนข้าราชการพลเรือน ที่ได้จำหน่ายจ่ายแจก และหยิบยกติดตัวไปใช้ต่างเกิดมีความชำนาญให้พบเป็นที่แจ่มแจ้งในทุกๆ ด้าน พลรบ นักคนที่มีรูปบูชาของพ่อท่านพรหมต่างตรัสเป็นเสียงหนึ่งเดียวกันว่า มีความหนักแน่นในการออกวางตนการงาน ยิ่งไปกว่านี้ บางท่านได้รับดวงลาภ ค้าดี จนปัจจุบันนี้ ชาวพุทธทั้งติดกันและไกลลิบต่างไหลไปที่วัดพลานุภาพประจำวัน ตลอดจนคนต่างประเทศ มาเลเซีย ประเทศสิงคโปร์ ต่างจากมากราบไหว้พระขอพรพ่อท่านพรหมอย่างบ่อยๆทุกเมื่อเชื่อวันมิได้สั้น พ่อท่านพรหม บอกว่า บางวันญาติโยมปริมาณมากในภูมิประเทศ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมไปถึงจังหวัดสงขลาบางส่วน จะแวะเวียนมา ไหว้ท่าน และขอให้ท่านผูกข้อมือ รวมทั้งขอวัตถุบูชา พระเครื่องติดตัวกลับไป เพื่อเป็นสิริมงคลแรงใจในการใช้ชีวิตท่ามกลางความไม่สงบเงียบ พ่อท่านพรหมบอกว่า แม้ตัวท่านจะเปลี้ยสรีระบ้าง แต่กลับรู้สึกอิ่มใจที่เห็นทั้งหมดกลับไปด้วยใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้ม จึงขอแน่วแน่ทำงานตรงนี้ชั่วกัลปวสานจนกว่าปราณทีหลัง

พ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ


วัตถุมงคล พ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ

สุดยอดพระเถระผู้มีพระเวทย์วิทยาคมสูง แห่งแดนลังกาสุกะ ผู้ปลุกมนต์ขลังแห่งพุทธคุณ สร้างปาฏิหารย์เป็นที่ประจักษ์แด่ผู้ศรัทธาทั้งประเทศ วัตถุมงคล หลายรุ่น เช่น รุ่นพุทธคุณสยาม พรหม 93 ที่มี เหรียญอาร์มหน้าหัวแหวนย้อนยุคชนวนเก่า, เหรียญเสมาหน้าหลวงพ่อทวด, พระปิดตาลังกาสุกะ เนื้อว่านดำ 109 มหาอุตม์, หลวงพ่อทวดพิมพ์ย้อนยุค 05 โบราณเนื้อว่าน 109 มหาอุตม์ และ พระกริ่งเฉลิมพลเนื้อนวะโลหะแก่ทอง เป็นต้น

พ่อท่านพรหม อธิษฐานจิต ปลุกเสกเดี่ยว วัตถุมงคล รุ่นพุทธคุณสยาม พรหม 93