วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงดำรงตำแหน่งเมื่อ พ.ศ. 2532 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

พระองค์ได้ทรงบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อปี พ.ศ. 2469 ขณะชันษาได้ 14 ปี ภายหลังบรรพชาแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่ วัดเทวสังฆาราม 1 พรรษา จากนั้นได้มาศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดเสน่หา จังหวัดนครปฐม กระทั่งชันษาครบอุปสมบท จึงได้เดินทางกลับไปอุปสมบทที่วัดเทวสังฆารามเมื่อพ.ศ. 2476 ภายหลังจึงได้เดินทางเข้ามาจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เพื่อทรงศึกษาพระธรรมวินัยต่อไป และที่วัดบวรนิเวศวิหารนี่เอง พระองค์ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทซ้ำเป็นธรรมยุติกนิกาย โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์เป็นพระอุปัชฌาย์ ด้านการศึกษา ทรงสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ในปีพ.ศ. 2484

สังฆราช แปลว่า ราชาของสงฆ์ ราชาของหมู่คณะ หมายถึง พระมหาเถระผู้เป็นใหญ่สูงสุดในสังฆมณฑล เรียกเต็มว่า สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เรียกย่อว่า สมเด็จพระสังฆราช นอกจากนี้ สังฆราช ยังมีอีกความหมายหนึ่งเป็นชื่อตำแหน่งพระมหาเถระผู้ใหญ่สูงสุดเช่นนั้น โดยเรียกว่า ตำแหน่งสังฆราช หรือ ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช

การวางรูปแบบการปกครองคณะสงฆ์ของไทย
แบบแผนการปกครองคณะสงฆ์ของไทย เริ่มจัดวางหลักตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย มีการพัฒนาเพิ่มเติมใน สมัยกรุงศรีอยุธยาและต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ก็ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อยมาตามลำดับ จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ฯ การปกครองคณะสงฆ์ก็ยังจัดโดยมีตำแหน่งเปรียบเทียบดังนี้
  • สกลสังฆปริณายก ได้แก่ สมเด็จพระสังฆราช 
  • มหาสังฆนายก ได้แก่ เจ้าคณะใหญ่ 
  • สังฆนายก ได้แก่ เจ้าคณะรอง 
  • มหาสังฆปาโมกข์ ได้แก่ เจ้าคณะมณฑล 
  • สังฆปาโมกข์ ได้แก่ เจ้าคณะจังหวัดที่เป็นพระราชาคณะ 
  • สังฆวาห ได้แก่ เจ้าคณะจังหวัดที่เป็นพระครู

ข่าวสารพระสังฆราช



สมเด็จพระสังฆราช” ประทานพระโอวาทวิสาขบูชา 2555 ทรงแนะคนไทยปฏิบัติให้ถึงแก่นพระพุทธศาสนา ศีล สมาธิ ปัญญา ถือว่าได้ร่วมเฉลิมฉลอง 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ ด้านรัฐบาลจัดพุทธชยันตียิ่งใหญ่ ชวนคนไทยร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาทั่วประเทศ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง-พระราชินี

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาทวันวิสาขบูชา 2555 ความว่า วันวิสาขบูชา อันเป็นอภิลักขิตกาลสำคัญในพระพุทธศาสนาได้เวียนมาถึงอีกวาระหนึ่ง ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 4 มิถุนายน พุทธศักราช 2555 และสำหรับในปีนี้ นับเป็นอภิลักขิตกาลพิเศษ คือ เป็นที่ครบ 26 พุทธศตวรรษ หรือ 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า หรือ 2,600 ปีแห่งการอุบัติขึ้นของพระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา คือ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านั้น เมื่อกล่าวโดยย่นย่อ ก็คือ สอนให้รู้ถึงความจริงของชีวิต คือ เรื่องทุกข์อันเป็นธรรมชาติของชีวิต และความดับทุกข์ อันเป็นเป้าหมายหรือผลอันพึงประสงค์ของชีวิต เมื่อกล่าวโดยหลักกว้างๆ ก็คือ สอนให้เว้นชั่ว ทำดี ทำจิตใจของตนให้บริสุทธิ์ และเมื่อกล่าวโดยหลักปฏิบัติ ก็คือ สอนให้ปฏิบัติในศีล ปฏิบัติในสมาธิ ปฏิบัติในปัญญา ทั้งนี้ ก็เพื่อผลคือประโยชน์สุขของพหูชน หรือเพื่อประโยชน์สุขของชาวโลกทั้งมวล

ฉะนั้น เนื่องในอภิลักขิตกาลครบ 26 ศตวรรษแห่งพระพุทธศาสนา ซึ่งได้มีการเฉลิมฉลองกันทั่วไป จึงใคร่ขอเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้รำลึกถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ที่ได้ทรงพระกรุณาสั่งสอนไว้ดังกล่าวข้างต้น น้อมนำเข้ามาศึกษาและปฏิบัติกันอย่างจริงจัง พร้อมทั้งแนะนำเผยแผ่ไปยังชาวโลกให้กว้างขวางยิ่งๆ ขึ้น เพื่อศานติสุขของมวลมนุษยชาติตลอดไป ก็จะได้ชื่อว่าได้ร่วมกันเฉลิมฉลอง 26 ศตวรรษแห่งพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและบุญกุศล อำนวยให้ทุกท่านเจริญด้วยสุขสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลตลอดไปโดยทั่วกัน

ที่มา :
Wikipedia
Manager.co.th

วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

หลวงพ่อสาคร ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม

หลวงพ่อสาคร มนุญโญ วัดหนองกรับ จ.ระยอง หรือ พระครูมนูญธรรมวัตร ศิษย์เอกผู้สืบทอดพุทธาคมจากหลวงปู่ทิม อิสริโก หลวงพ่อสาครเป็นผู้ฝักใฝ่ในด้านเวทย์มนต์คาถาอาคม และวิชาแพทย์แผนโบราณมาตั้งแต่เด็กๆ นามเดิมว่า สาคร ไพสาลี


หลวงพ่อสาคร เจิมวัตถุมงคล พระยอดขุนพลบ้านค่าย

หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากบรรดาเกจิอาจารย์ต่างๆอีกหลายองค์ อาทิ

  1. ได้เดินทางไปศึกษากับอาจารย์เชียงคำ ที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
  2. ศึกษากับอาจารย์สิน วัดนาวัง อ.บางละมุง ชลบุรี
  3. เดินทางไปศึกษากับอาจารย์สุพจน์ ที่ประเทศเขมร
  4. ศึกษากับพระอาจารย์สุมล คำเสียง ที่จังหวัดศรีษะเกษ
  5. ศึกษากับหลวงพ่อบุญเย็น วัดแจ้งนอก จ.นครราชสีมา
  6. ศึกษากับหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
  7. ศึกษากับหลวงพ่ออาคม วัดดาวนิมิตร จ.เพชรบูรณ์
  8. ศึกษากับหลวงพ่อบึม วัดปราสาทกิน จ.ปราจีนบุรี
หลวงพ่อสาคร ยังได้ศึกษากับพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านไสยเวทย์ต่างๆอีกหลายท่านทั้งพระภิกษุและฆราวาส ในปีพ.ศ. 2508 พระครูเกลี้ยงธรรมถีโยเจ้าอาวาส ลำดับที่ 9 วัดหนองกรับได้มรณภาพลง ชาวบ้านหนองกรับได้เดินทางไปหา หลวงปู่ทิม ที่วัดละหารไร่เพื่ออาราธนาหลวงพ่อสาคร มนูญโญ ให้กลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองกรับ หลวงปู่ทิมได้อนุญาต หลวงพ่อสาคร จึงมาเป็นเจ้าอาวาส วัดหนองกรับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงแม้ว่า หลวงพ่อสาคร ท่านจะมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองกรับก็มิได้ทอดทิ้ง หลวงปู่ทิม ผู้เป็นอาจารย์ยังคงเดินทางไปกราบนมัสการดูแลหลวงปู่อยู่เสมอจนกระทั่งหลวงปู่ทิมได้มรณภาพลง ในปี 2518 หลวงพ่อสาคร ก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ในการจัดบำเพ็ญกุศลศพ หลวงปู่ทิม อย่างเต็มที่สมกับที่เป็นศิษย์ก้นกุฏิอย่างแท้จริง จนบรรดาลูกศิษย์ลูกหาอื่นๆของหลวงปู่ทิมกล่าวยกย่องชมเชย หลวงพ่อสาคร กันทั่ว

หลวงพ่อสาครนอกจาก จะสนใจศึกษาวิชาอาคมต่างๆแล้วท่านก็มิได้ทอดทิ้งในด้านการศึกษาพระธรรมวินัย และเมื่อรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองกรับซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 200ปีและเคยถูกไฟไหม้เผากุฏิเสนา สงฆ์จนวอดวายท่านก็มิได้ดูดายเมื่อมาเป็นเจ้าอาวาสก็ได้บูรณะและสร้างเสนาสนะใหม่ขึ้นมาเพื่อให้ภิกษุสงฆ์ สามเณรและพุทธศาสนิกชนได้ใช้ปฏิบัติศาสนกิจต่อไปด้วย

วัตถุมงคล หลวงพ่อสาครที่เป็นที่สนใจก็ได้แก่ พระยอดขุนพลบ้านค่าย, ตะกรุดมหาโจร, ขุนแผนผงพราย, เหรียญเสมาครบ 6 รอบ เป็นต้น

หลวงพ่อสาคร ยอดขุนพลบ้านค่าย เนื้อสำริด


วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

วัดปทุมคงคา

วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร หรือ วัดสำเพ็ง เขตสัมพันธวงศ์ เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยรัชกาลที่ 1 ทรงดำริให้ซ่องแซมใหม่ทั้งวัด เนื่องจากขณะนั้นวัดชำรุดทรุดโทรมมาก วัดแห่งนี้ยังมีหลักฐานปรากฏในพระราชพงศาวดารสมัยรัชกาลที่ 3 ว่าเป็นสถานที่ประหารนักโทษในช่วงต้นๆ กรุงรัตนโกสินทร์ กล่าวได้ว่าวัดปทุมคงคาฯ เป็นที่แรกใน กรุงเทพมหานครที่เป็นลานประหารชีวิต


ปัจจุบันมีแท่นหินประการกบฏ ซึ่งใช้สำเร็จโทษพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไกรสร กรมหลวงรักษ์รณเรศด้วยท่อนจันทน์ เมื่อปี 2391 เพราะถูกหาว่าเป็นกบฏบ้านเมือง หลังหมดยุครัชกาลที่ 3 วัดปทุมคงคาฯ เริ่มพ้นจากวังเวง รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้พระยาพิศาลศุภผลลงมือบูรณะใหม่ทั้งวัด ยกพระพุทธรูปในอุโบสถให้สูงขึ้น สร้างเป็นพระทรงเครื่องต้นอย่างกษัตริย์ ที่พระนลาฏฝังเพชรแล้วต่อชุกชีออกมาทำเป็นเทวรูปถือพุ่มฉัตรดอกไม้เงิน เพราะวัดนี้เป็นวัดของสมเด็จกรมพระราชวังบวรสุรมหาสิงหนาทสร้างถวายสมเด็จพระบรมไนยิกาธิราชเจ้า

พระพุทธมหาชนก
ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธมหาชนก พระนามพระราชทานจากรัชกาลที่ 9 ทั้งยังมีพระเจดีย์โบราณ พระวิหารคด พระพุทธบาทจำลอง พระปรางค์ 8 องค์ และมีภาพเขียนฝาผนังผีมือช่างชุดเดียวกับที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ

"พระพุทธมหาชนก" เป็นพระพุทธรูปประธาน ที่มีชาวบ้านในย่านสำเพ็งและเยาวราช เข้ามากราบนมัสการเพื่อความเป็นสิริมงคลอยู่เป็นประจำ โดยพระพุทธมหาชนก เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่อง ขัดสมาธิราบ วัสดุโลหะลงรักปิดทอง หน้าตักกว้าง 2.2 เมตร ส่วนสูงถึงยอดพระเกตุมาลา 3 เมตร

วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สืบสานตำนาน พระกริ่งน้ำท่วม

สืบสานตำนาน'พระกริ่งน้ำท่วม' 'พระอาจารย์ติ๋ว' วัดมณีชลขัณฑ์ เมื่อปี ๒๔๘๕ ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ขึ้นที่เมืองหลวง ด้วยน้ำเหนือที่ไหลบ่ามามาก ประกอบกับภาวะน้ำทะเลหนุน ทำให้ใจกลางของกรุงเทพฯ ต้องจมน้ำไปโดยปริยาย ถึงขนาดพายเรือเล่นกันกลางลานพระรูปกันเลยทีเดียว

ในช่วงนั้น ท่านเจ้าคุณศรีฯ (สนธิ์) วัดสุทัศนฯได้จัดสร้างพระกริ่งขึ้นมารุ่นหนึ่ง เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม โดยมี สมเด็จพระสังฆราช (แพ) เป็นประธานในพิธีเททองและปลุกเสกพระกริ่ง ด้วยหวังว่า พุทธคุณของพระกริ่งที่จัดสร้างในครั้งนั้น คงช่วยบรรเทาทุกข์โศกโรคภัยหลังน้ำลดไปบ้าง

ในวันทำพิธี น้ำยังท่วมไม่ถึงบริเวณที่ทำพิธี แต่หลังจากทำพิธีเสร็จสิ้นน้ำก็ท่วมหมดทั่ววัด พระกริ่งที่จัดสร้างจึงถูกขนานนามว่า "พระกริ่งน้ำท่วม"

ภาพจาก คมชัดลึก

ต่อมาเมื่อปี ๒๕๕๔ "น้องน้ำ" ได้มาเยือนกรุงเทพฯ อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ท่วมหนักกว่าเดิม ความเดือดร้อนกินเนื้อที่หลายจังหวัด เป็นเวลานานนับเดือน ชาวบ้านบางคนถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวไปเลยก็มี พอน้ำลดแห้งหายไปโรคภัยไข้เจ็บที่มากับน้ำก็มาก รุมเร้าทั้งกายใจไปทั่วแห่งหน

ด้วยเหตุนี้ พระครูวิมลญาณอุดม (พระอาจารย์ติ๋ว) วัดมณีชลขัณฑ์ อ.เมือง จ.ลพบุรี ผู้มีความรอบรู้ในด้านวิทยาคม และได้ศึกษาตำราการสร้างพระกริ่งมาอย่างแตกฉาน เห็นว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ต่างไปจากเมื่อปี ๒๔๘๕ จึงได้สร้าง "พระกริ่งฐิตวฑฺฒโน" ขึ้นเพื่อบรรเทาทุกข์ทั้งทางกายและทางใจให้แก่ผู้ที่ประสบภัย โดยจะนำปัจจัยส่วนหนึ่งช่วยฟื้นฟูผู้ประสบภัยหลังน้ำท่วมอีกด้วย

พุทธคุณของพระกริ่งเด่นในเรื่องรักษาโรค และความเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชาอยู่ในตัว บ้างก็ว่าพุทธคุณพระกริ่งนี้มีครอบจักรวาล หากได้ลองอาราธนาแล้วแช่น้ำไว้ แล้วนำน้ำนั้นมาดื่มมาอาบ โรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่ก็จะทุเลาเบาบางลง แล้วหายไปในท้ายที่สุด หากใครดวงตก ค้าขายไม่ดี ให้นำน้ำที่แช่พระกริ่งนั้นไปอาบกิน ดวงชะตาก็จะดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

สำหรับ พระกริ่งฐิตวฑฺฒโน รุ่นนี้พระอาจารย์ติ๋วได้จัดสร้างขึ้นตามตำราที่ได้ศึกษามาทุกประการ และยังได้ขอบารมีของ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ประทานพรให้ด้วย เพื่อให้พระกริ่งรุ่นนี้มีความศักดิ์สิทธิ์และเข้มขลังอย่างแท้จริง

ข่าวจาก : คมชัดลึก

วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ข่าวการจัดสร้าง พระกริ่งรุ่น 155 ปี สมเด็จพระสังฆราช (แพ)

บัดนี้ สมควรแก่เวลา จึงจัดสร้าง รุ่น 155 ปี สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ขึ้น เพื่อสืบทอดตำนานสุดยอดพระกริ่ง



พระกริ่ง ถือเป็นพระเครื่องชั้นสูง ซึ่งต้องมีพิธีกรรมจัดสร้างถูกต้องทุกขั้นตอน และต้องเกิดขึ้นด้วยความ บริสุทธิ์ จึงจะเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนั้น จะต้องใช้มวลสารตามตำรา นวโลหะวิธี โดยนำโลหะธาตุ 9 ชนิดไปหลอม แล้วรีดให้เป็นแผ่น เพื่อลงพระยันต์ในพระอุโบสถตามฤกษ์พานาที

พิธีกรรมก็ต้องตั้งโรงพิธีเททอง และโรงพิธีพุทธาภิเษก ประกอบด้วยราชวัตรฉัตรธงเครื่องประกอบต่างๆมากมาย การโยงสายสิญจน์ ก็จะต้องทำตามตำรา ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จฯ คือจะวงสายสิญจน์จากพระประธานที่วิหารหลวง จากพระประธานที่ศาลาการเปรียญ และจากพระเจดีย์ที่บรรจุพระอัฐิของสมเด็จพระวันรัต (แดง) เข้ามาในพระอุโบสถ

ข่าวการจัดสร้าง พระกริ่ง รุ่น 155 ปี สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ได้รับความสนใจมาก เพราะจะจัดพิธีเททองหล่อโบราณเป็นครั้งแรก ในวัดสุทัศน์ หลังงดไปนาน 15 ปี ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ โดย ท่านเจ้าคุณพระ ธรรมรัตนดิลก เจ้าคณะภาค 4 เป็นประธาน ซึ่งเป็นฤกษ์เดียวกับสมัยเจ้าพระคุณสมเด็จฯทรงหล่อ พระกริ่ง ชนะคน เมื่อปี 2471 อีกนาน 111 ปี จะมีฤกษ์เช่นนี้อีกครั้ง


พิธีเททองหล่อพระกริ่ง,พระชัยวัฒน์,พระพุทธชินราชนำฤกษ์ และพิธีมหาพุทธาภิเษกพระกริ่ง รุ่น 155 ปี

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม เจิมแผ่นทองเพื่อนำไปเป็นฉนวนมวลสาร




วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

พระกริ่งพุทธบารมีมหาเศรษฐี รุ่น สมปรารถนา

พระกริ่งพุทธบารมีมหาเศรษฐี รุ่น สมปรารถนา

พระกริ่งพุทธบารมี เนื้อทองทิพย์
ดำเนินการจัดสร้าง โดย วัดอนาลโยทิพยาราม อ.เมือง จ.พะเยา โดย พระมหาคมกริช สิริจันโท ประธานจัดสร้าง

วัดป่าท่าลาด ต.ท่าลาด อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา มีท่านพระอาจารย์วิรัตน์ ฐานิสสโร เจ้าอาวาส ได้ขอความเมตตาจากท่านพระมหาคมกริช สิริจันโท ปธ.๘ จำพรรษาที่วัดอนาลโย จ.พะเยา ซึ่งวัดป่าท่าลาด แห่งนี้เป็นบ้านเกิดของพระมหาคมกริช ท่านจึงสร้างวัตถุมงคลเพื่อนำปัจจัยมาทำนุบำรุงเสนาสณะ ของวัดบ้านเกิด

วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง :
  1. เพื่อสมทบทุนจัดสร้างศาลาการเปรียญ และกำแพงรอบ วัดป่าท่าลาด อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา 
  2. สมทบทุนบูรณะปฏิสังขรณ์ ศาสนสถานภายในวัดหนองบัว นครหลวงเวียงจันทร์ สปป.ลาว 
  3. เป็นทุนการศึกษา แก่เด็กนักเรียนที่ยากจนในถิ่นทุรกันดาน
ชนวนมวลสารจาก เจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม



พิธีพุทธาภิเษก วาระที่ 1 วันที่ 3 มีนาคม 2555 ณ วัดป่าท่าลาด อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา  


 พิธีพุทธาภิเษก วาระที่ ๒ อธิษฐานจิตเดี่ยว โดย พระเทพวิสุทธิญาณ (หลวงพ่อไพบูลย์) เจ้าอาวาสวัดอนาลโย จ.พะเยา เมตตาอธิษฐานจิต ปลุกเสกเดี่ยว อัญเชิญพระพุทธบารมี วันที่ 29 มีนาคม 2555 , หลวงพ่อเจริญ อธิษฐานจิต ปลุกเสกเดี่ยว ณ วัดโนนสว่าง จ.อุดรธานี และ ครูบาอ่อน วัดสันต้นหวือ จ.พะเยา  



พิธีพุทธาภิเษก วาระที่ 3 วันที่ 7 เมษายน 2555 ณ วัดโพธิ์ไชยาราม นครหลวงเวียงจันทร์ ประเทศลาว


เช่าบูชา พระกริ่งพุทธบารมีมหาเศรษฐี รุ่น "สมปรารถนา" ได้ที่ www.AmuletAt7.com


 รายละเอียด เพิ่มเติม พระกริ่งพุทธบารมีมหาเศรษฐี รุ่นสมปราถนาได้ที่นี่ และ พิธีพุทธาภิเษก

วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

พิธีพุทธาภิเษก หลวงพ่อหนุนดวง-ค้ำดวง วัดบางจาก

พิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคล รุ่น บารมีหลวงพ่อหนุนดวง - ค้ำดวง สุดยอดพิธี 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 21-27 กรกฎาคม 2553

 
มณฑลพิธีบวงสรวง

  
พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์

  
   
พระเดชพระคุณพระพรหมสุธี เจ้าคณะภาค 12 กรรมการมหาเถระสมาคม วัดสระเกษ ดับเทียนชัย


หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู จ.อุบลราชธานี

หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.อยุธยา


หลวงปู่สรวง วัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ จ.ลพบุรี


หลวงพ่อรวย วัดตะโก จ.อยุธยา


หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ จ.ฉะเชิงเทรา


หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี


หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก


วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

หลวงพ่อ​แคล้ว เทพ​เจ้า​แห่ง​เขาค้อ

พระครูพัชรคณาภิบาล ​หรือ มหา​แคล้ว ฐานิสฺส​โร ​เทพ​เจ้า​แห่ง​เขาค้อ ​เจ้าคณะอำ​เภอ​เขาค้อ ต.​เขาค้อ อ.​เขาค้อ จ.​เพชรบูรณ์ ที่ท่านมี​ความ​เพียรพยายามหลังจากที่​ได้ปวารนา​ถึง​การบวช​ไปตลอดชีวิต

หลวงพ่อแคล้ว วัดเขาค้อ


สิ่งที่หลวงพ่อแคล้ว ท่าน​ได้ปฏิบัติมานานนับ 14 ปี กิจกรรมหนึ่งคือ​การจัด​เลี้ยงพระทุกวันอาทิตย์ปลาย​เดือน ​เดือนหนึ่ง ร้อยถึงเจ็ดร้อยรูปเลยทีเดียว ​เพราะหลวงพ่อแคล้ว ท่าน​เล่าว่า อาตมา​เห็นปัญหาของ​การที่พระสงฆ์บ้านนอก ที่อยู่ห่าง​ไกล​ความ​เจริญ ​ใน​เรื่องจัตุปัจจัย หรือ ปัจจัยสี่ ​ใน​การบริ​โภคของพระสงฆ์ สาม​เณรที่ขาด​แคลน ​ทำ​ให้พระ​เณร ไม่ต้อง​ไป​ใน​เมือง​เพื่อ​แสวงหาจัตุปัจจัย​ให้​เพียงพอ​ใน​การยังชีพของสมณ​เพศ หลวงพ่อแคล้ว ​จึง​ได้นิมนต์พระ​เณรมารับมหาสังฆทานที่วัด​เขาค้อ ​เมื่อญาติ​โยมทราบข่าว​ ก็​ได้​เดินทางมาร่วมถวายมหาสังฆทานกัน​แต่ละครั้ง นับร้อยคนขึ้น​ไป​ในวันอาทิตย์

​ใน​การ​ทำบุญ​ใหญ่ทุกวัน​เสาร์อาทิตย์ปลาย​เดือน ปัจจัยที่​ได้จากงานบุญ​ใหญ่หลวงพ่อแคล้ว จะนำ​ไปตั้ง​เป็นกองทุนส่ง​เสริม​การศึกษาของพระ​เณร ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยห้อง​เรียน จ.​เพชรบูรณ์ ณ วัด​ไพรสณฑ์ศักดาราม หลวงพ่อ​แคล้ว วัดเขาค้อ กล่าวว่า หลวงพ่อธุดงค์มา 40 ปีรวม​ทั้ง 12 ปี​แห่ง​การศึกษาทางธรรมจน​ได้​เปรียญธรรม 5 ประ​โยค สิ่งที่หลวงพ่อ​เป็นห่วงสถาบันพระพุทธศาสนา ​โดย​เฉพาะนักบวชที่จะมาสืบทอดพระพุทธศาสนา​เพื่อจะ​ได้สั่งสอนธรรมะสู่ประชาชน เพราะปัจจุบันพระสังฆาธิ​การรุ่นอายุ 60 ​ถึง 80 ปี ​เมื่อ​ถึงกาลมรณภาพละจาก​โลกนี้​ไป​แล้ว จะมีพระรุ่น​ใหม่สืบต่อกันอย่าง​ไร ​ใน​เมื่อปัจจุบันจะหา​ผู้ที่​เข้าบวช​เพื่อรักษาพระพุทธศาสนาน้อย​เต็มทน ​และมีระบบ​การศึกษาที่​ทำ​ให้​เยาวชนจะมาบวช​เข้าพรรษายัง​ทำ​ได้ยาก หลวงพ่อ​จึงขวนขวาย​ไปหา​เยาวชนจากภาค​เหนือ​และอีสาน ​ซึ่ง​เป็นลูกตาสีตาสา ขี่หลังวัวหลังควาย​ทำ​ไร่​ทำนา มีฐานะยากจน ​เพื่อ​แบ่ง​เบาภาระของญาติ​โยม นำมา บวชพระ บวช​เณร ​แล้วส่ง​เสริม​ให้มี​การศึกษาระดับมหาวิทยาลัยปริญญาตรี​ในระดับ มหาวิทยาลัยสงฆ์ “มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย” ของจังหวัด​เพชรบูรณ์ ​โดยทุกวัน อาตมา​ได้พยายามหากองทุน​เพื่อยก​ให้​เป็นวิทยา​เขต​ให้​เป็น วิทยาลัย​ให้​ได้ ​เพื่อจะ​ได้สง​เคราะห์ลูกชาว​ไร่ชาวนาที่ขี่หลังควาย​ให้มี​การศึกษา ยกฐานะขึ้น​เป็นครูบาอาจารย์​เผย​แผ่พระพุทธศาสนาต่อ​ไป

ขอเชิญร่วมบูชาวัตถุมงคล หลวงพ่อแคล้ว วัดเขาค้อ "ชุดเหล็กน้ำพี้" รุ่น 1 วัตถุประสงค์ เพื่อ สร้างศาลาปฏิบัติธรรมวัดโคกมน อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ และ จัดตั้งกองทุนพิพิธภัณฑ์วัตถุมงคลแร่เหล็กน้ำพี้ ณ วัดเขาค้อพัฒนาราม อ.เขาค้อ และ วัดโคกมน อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ สามารถเช่าบูชา และ รับบูชา ได้ที่ ร้าน 7-Eleven สาขาใกล้บ้าน หรือ เว็บไซต์ www.AmuletAt7.com

หลวงพ่อแคล้ว ชุดเบญจภาคีเหล็กน้ำพี้